คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 นั้น นอกจากจะแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานแล้ว ข้อความที่แจ้งต้องอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายด้วย เมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าโจทก์อาจได้รับความเสียหายอย่างไร แม้จะพิจารณาฟ้องโจทก์ทั้งเรื่องก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าโจทก์อาจได้รับความเสียหายอย่างไรจากการกระทำของจำเลย ในข้อที่โจทก์เป็นผู้เช่าตึกแถว เมื่อมีการโอนขายกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือแม้แต่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในตึกแถวที่เช่าด้วย สิทธิของโจทก์ย่อมไม่กระทบกระเทือน โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายและไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาหรือคำสั่งที่ต้องมีข้อความสำคัญตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 นั้น หมายถึงคดีที่ศาลได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากคำคู่ความหรือพยานหลักฐานแล้วเท่านั้น คดีที่ศาลชั้นต้นพิจารณาฟ้องโจทก์แล้วมีคำสั่งให้ยกฟ้อง ไม่จำต้องมีรายการครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายมาตราดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้เช่าตึกแถวซึ่งปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ ๔จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ ๑ มีเงินไม่พอจ่ายเป็นค่าซื้อที่ดินจากจำเลยที่ ๔แต่จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่าจำเลยที่ ๔ ได้ขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๑ รับซื้อไว้โดยชำระราคาเรียบร้อยแล้ว ทำให้เจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้แก่จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๘๓
ศาลชั้นต้นพิจารณาฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า ตามฟ้องไม่ปรากกว่าโจทก์เสียหายแต่อย่างใด โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหาย ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ องค์ประกอบความผิดนอกจากจะแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานแล้วข้อความที่แจ้งต้องอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายด้วย โจทก์บรรยายฟ้องความว่า จำเลยที่ ๑ เป็นบริษัทจำกัด มีจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ เป็นกรรมการจำเลยที่ ๔ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์เช่าตึกแถวซึ่งปลูกในที่ดินนั้นจากจำเลยที่ ๔ ต่อมาจำเลยที่ ๔ ได้ตกลงขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ มีเงินไม่พอจ่าย แต่จำเลยทั้งสี่แจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า ผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับชำระค่าที่ดินเรียบร้อยแล้ว เจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้ การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการแจ้งความเท็จ ทำให้โจทก์เสียหายโดยโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเลยว่าโจทก์อาจได้รับความเสียหายอย่างไร แม้จะพิจารณาฟ้องโจทก์ทั้งเรื่องก็ยังไม่สามารถจะเข้าใจได้ว่าโจทก์อาจได้รับความเสียหายอย่างไรจากการกระทำของจำเลยทั้งสี่ ประกอบกับโจทก์เป็นผู้เช่าตึกแถวจากจำเลยที่ ๔เมื่อจำเลยที่ ๔ โอนขายกรรมสิทธิ์ที่ดินให้จำเลยที่ ๑ ไม่ว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ตึกแถวให้ด้วยหรือไม่ก็ตาม สิทธิของโจทก์ในฐานะผู้เช่าย่อมไม่ได้รับการกระทบกระเทือน เพราะผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่า โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย และไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาหรือคำสั่งที่ต้องมีข้อสำคัญตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖ นั้น เฉพาะคดีที่ศาลได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากคำคู่ความหรือพยานหลักฐานแล้วเท่านั้น กฎหมายมาตราดังกล่าวกำหนดให้คำพิพากษาหรือคำสั่งต้องมีรายการเกี่ยวกับข้อหาและคำให้การ กับข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาฟ้องโจทก์แล้ว ให้ยกฟ้อง โดยยังไม่ได้ทำการสืบพยาน คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องโจทก์ จึงไม่จำเป็นต้องมีรายการครบถ้วนตามที่กฎมหายกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖
พิพากษายืน

Share