คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องคดีอาญาภายหลังสืบพยานจำเลยไปบ้างแล้วโดยอ้างเหตุผลว่าคำฟ้องของโจทก์บกพร่องเกี่ยวกับวันที่เกิดเหตุเนื่องจากพิมพ์ผิดพลาดก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เหตุที่โจทก์อ้างถือได้ว่าเป็นเหตุอันควร ประกอบกับเป็นการแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 164 ทั้งจำเลยให้การและเบิกความก็เป็นเพียงการปฏิเสธลอย ๆ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าวันที่โจทก์ขอแก้จำเลยทำอะไรอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ระบุในคำฟ้องฉบับเดิมจำเลยก็ถูกขังในเรือนจำตามหมายขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๘ , ๑๕ , ๖๖ , ๑๐๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ ริบของกลาง และนับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย
จำเลยขออุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๓ บัญญัติว่า เมื่อมีเหตุอันควร โจทก์มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น… คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องภายหลังสืบพยานจำเลยไปบ้างแล้ว โดยอ้างเหตุผลว่าคำฟ้องของโจทก์บกพร่องเกี่ยวกับวันที่เกิดเหตุเนื่องจากพิมพ์ผิดพลาด ขอแก้คำว่า เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๑ เป็นเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๔๑ การยื่นคำร้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นการยื่นก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และเหตุที่โจทก์อ้างมานั้นก็ถือได้ว่าเป็นเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ เพราะอาจเกิดเหตุบกพร่องพิมพ์ผิดพลาดเช่นนั้นได้ ประกอบกับการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะวันที่ที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดนั้น เป็นการแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๔ ทั้งจำเลยให้การและเบิกความก็เป็นเพียงการปฏิเสธลอย ๆ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๔๑ จำเลยทำอะไรอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๑ ซึ่งเป็นวันที่ระบุในคำฟ้องฉบับเดิม จำเลยก็ถูกขังในเรือนจำตามหมายขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share