คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับบริษัทส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศบริษัทดังกล่าวจัดการให้จำเลยเดินทางไปทำงานต่างประเทศการส่งคนไปทำงานต่างประเทศเป็นเรื่องของบริษัท โจทก์เป็นเพียงผู้บริการให้ความสะดวกแก่จำเลยเท่านั้น แม้โจทก์จะเรียกและรับค่าบริการจากจำเลย ก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง อันเป็นการจัดหางานตาม พระราชบัญญัติ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 4
จำเลยตกลงให้โจทก์ติดต่อกับบริษัทจัดหางานส่งจำเลยไปทำงานต่างประเทศโดยโจทก์คิดค่าบริการ 35,000 บาท และให้จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ไว้ เมื่อการกระทำของโจทก์ไม่เป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2511 แล้ว สัญญากู้ยืมระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 โจทก์ย่อมนำสัญญากู้ยืมมาฟ้องให้จำเลยชำระเงินที่ยังค้างอยู่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงให้โจทก์จัดการติดต่อกับบริษัทที่จัดส่งคนไปทำงานต่างประเทศ โดยถ้าจำเลยได้ไปทำงานต่างประเทศแล้วจำเลยจะจ่ายค่าป่วยการให้โจทก์ 35,000 บาท โจทก์ได้ติดต่อบริษัทจนจำเลยได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ แต่จำเลยไม่มีเงินจึงได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์และได้ผ่อนชำระให้โจทก์บ้างคงค้างต้นเงินอยู่ 13,000 บาทและดอกเบี้ย 910 บาท โจทก์ได้ทวงถามจำเลยหลายครั้งแล้ว จำเลยไม่ชำระ จึงฟ้องให้จำเลยชำระเงินจำนวน13,910 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
จำเลยให้การว่า ได้ตกลงให้โจทก์ช่วยจัดการนำจำเลยไปสมัครทำงานในต่างประเทศโดยโจทก์คิดค่านายหน้าและค่าบริการเป็นเงิน25,000 บาท จำเลยไม่มีเงิน โจทก์จึงได้ให้จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์จำนวน 35,000 บาทไม่คิดดอกเบี้ย และต่อมาจำเลยได้ส่งเงินผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว 47,700 บาท เพราะโจทก์คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบต่อเดือน แต่โจทก์ไม่คืนหนังสือสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 การที่โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อเป็นค่านายหน้าและค่าบริการในการจัดหางานเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย สัญญากู้เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 113 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์จำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าโจทก์เป็นผู้ติดต่อกับบริษัทที่จัดการส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศในกรุงเทพมหานคร จนบริษัทดังกล่าวจัดการให้จำเลยได้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โจทก์คิดค่าบริการจากจำเลย35,000 บาท แต่จำเลยยังไม่มีเงินให้โจทก์จึงได้ทำสัญญากู้ยืมตามที่โจทก์นำมาฟ้อง โจทก์มิได้รับอนุญาตให้เป็นผู้จัดหางานตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 และโจทก์จำเลยท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายข้อเดียวว่า สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์ฟ้องเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 113 ตามที่จำเลยต่อสู้หรือไม่ ถ้าสัญญากู้ยืมเงินเป็นโมฆะโจทก์ยอมแพ้และถ้าสัญญาดังกล่าวไม่เป็นโมฆะจำเลยยอมแพ้และยอมรับผิดใช้เงินตามฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์จำนวน 13,910บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 13,000บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาว่า โจทก์เป็นนายหน้าในการจัดหางานให้แก่จำเลย และเรียกค่าบริการจากจำเลย ถือได้ว่า โจทก์จัดหางานโดยเรียกหรือรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511การที่โจทก์เรียกค่าบริการโดยให้จำเลยทำสัญญากู้ยืมไว้ สัญญาดังกล่าวตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 4 บัญญัติว่า “ในพระราชบัญญัตินี้จัดหางานหมายความว่า การประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง” ซึ่งการจัดหางานตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นได้ว่าจะต้องเป็นการประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้างแต่ข้อเท็จจริงได้ความตามที่โจทก์จำเลยรับกันว่าโจทก์เป็นผู้ติดต่อกับบริษัทที่จัดส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศให้บริษัทดังกล่าวจัดการให้จำเลยได้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศแม้โจทก์จะเรียกและรับค่าบริการจากจำเลยโจทก์ก็ไม่ได้เป็นผู้จัดส่งจำเลยไปทำงาน การส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศเป็นเรื่องของบริษัทผู้จัดหาคนงาน การที่โจทก์ติดต่อกับบริษัทเพื่อให้จำเลยได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นการบริการให้ความสะดวกแก่จำเลยเท่านั้นแม้โจทก์จะเรียกและรับค่าบริการจากจำเลยก็ยังไม่ถือว่าโจทก์ได้ประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง อันเป็นการจัดหางาน ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2511 มาตรา 4 การที่โจทก์รับเป็นผู้ติดต่อกับบริษัทที่จัดส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศเพื่อให้จัดการส่งจำเลยไปทำงาน จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใดโจทก์มีสิทธิเรียกค่าบริการจากจำเลย สัญญากู้ยืมที่โจทก์ฟ้องเป็นสัญญาที่จำเลยตกลงยอมรับผิดใช้หนี้ซึ่งมีมูลหนี้มาจากการที่จำเลยได้ตกลงให้โจทก์จัดการติดต่อกับบริษัทจัดหางานเพื่อให้จัดส่งจำเลยไปทำงานจึงไม่เป็นโมฆะ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน โจทก์ไม่แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้

Share