แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า จำเลยที่ 2 ได้ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลควรลงโทษจำเลยที่ 2 ในสถานเบา โดยให้รอการลงโทษไว้ก่อนหรือปรับเพียงสถานเดียว นอกจากนี้ศาลล่างทั้งสองยังได้กำหนดโทษจำเลยที่ 2 โดยมิได้ระบุมาตราและวรรคให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 30)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4,6,10,12ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,83 จำคุกคนละ 4 เดือน จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 เดือนริบของกลางจำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 27)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 30)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 ฎีกาคัดค้านดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์แต่เพียงประการเดียว ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ส่วนตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ที่อ้างว่าศาลล่างทั้งสองกำหนดโทษจำเลยที่ 2 โดยไม่ระบุมาตราและวรรคให้ถูกต้องนั้นจำเลยที่ 2 มิได้กล่าวอ้างความข้อนี้มาในฎีกาของจำเลยที่ 2ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง