คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จดทะเบียนภารจำยอมเป็นทางยาวประมาณ 10 เมตร รูปแผนที่มีเส้นขีดยาวตามมาตราส่วน 35 เมตร แต่มีอักษรเขียนว่ายาว 10 เมตร จะถือตามมาตราส่วนว่า 35 เมตร ไม่ได้ และจะทำสะพานลงน้ำหน้าที่ดินเพื่อบรรทุกของลงเรือก็เป็นการเพิ่มภาระ ทำไม่ได้

ย่อยาว

ที่ดินของโจทก์อยู่ข้างใน ที่ดินของจำเลยอยู่ข้างนอกติดคลองมีข้อตกลงจดทะเบียนภารจำยอมให้โจทก์ใช้ทางผ่านที่ดินจำเลย ต่อมามีถนนตัดผ่านที่ดินของโจทก์ด้านตรงข้ามกับคลอง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าทางภารจำยอมยาว35 เมตร และให้โจทก์สร้างสะพานลงคลองหน้าที่ดินจำเลยได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาชั้นฎีกาที่จะวินิจฉัยข้อแรกว่าทางภารจำยอมมีระยะทางยาวประมาณ 10 เมตร หรือ 35 เมตร ข้อนี้โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยว่าทางภารจำยอมมีความยาวเท่าใด โดยอาศัยบันทึกข้อตกลงและรูปแผนที่ท้ายฟ้องเป็นหลักวินิจฉัย พิเคราะห์บันทึกข้อตกลงและรูปแผนที่ท้ายคำฟ้อง เห็นว่าข้อความในบันทึกข้อตกลงภารจำยอมบางส่วนมีข้อความว่า นายชัยยงค์ อึ้งสิทธิพูนพร (จำเลย) ยินยอมให้ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในบังคับภารจำยอมเรื่องทางเดินของที่ดินโจทก์จากทางทิศใต้ติดคลองวัดโคนอนกว้างประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร และในแผนที่ท้ายฟ้องก็มีเส้นขีดเป็นรูปทางโดยมีอักษรกำกับข้างเส้นที่ขีดเป็นรูปทางว่ากว้าง 4 เมตรยาว 10 เมตร ไม่มีข้อความข้อใดเลยว่าทางภารจำยอมที่ตกลงกันนี้มีระยะทางยาว 35 เมตร จะวินิจฉัยตามมาตราส่วนของเส้นที่ขีดเป็นรูปทางในแผนที่ท้ายฟ้องว่าทางภารจำยอมยาว 35 เมตรไม่ได้ตามที่โจทก์ฎีกา ต้องฟังตามตัวอักษรที่ปรากฏในบันทึกข้อตกลงและในแผนที่ท้ายฟ้อง

ปัญหาข้อต่อไปว่า โจทก์มีสิทธิสร้างสะพานหน้าที่ดินของจำเลยได้หรือไม่ ข้อนี้ในบันทึกข้อตกลงเรื่องภารจำยอมตามสำเนาท้ายฟ้องก็ไม่มีข้อความที่เกี่ยวกับการสร้างสะพาน มีแต่คำว่าภารจำยอมเรื่องทางเดินเท่านั้น แม้ในแผนที่ท้ายฟ้องจะเขียนคำว่าสะพานไว้ แต่ก็ไม่ได้ระบุไว้ให้ชัดเจนว่าสะพานเป็นทางภารจำยอม จึงไม่พอรับฟังว่าข้อตกลงเรื่องภารจำยอมนั้นมีการสร้างสะพานด้วย ฉะนั้นการที่โจทก์จะขอสร้างสะพานหน้าที่ดินของจำเลย ย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์ซึ่งทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388 โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะทำได้”

พิพากษายืน

Share