คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10090/2553

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างเดือนมกราคม 2545 ถึงเดือนมีนาคม 2545 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายทั้งสี่ว่าสามารถหางานให้ผู้เสียหายทั้งสี่ไปทำงานในต่างประเทศ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนผู้เสียหายทั้งสี่หลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้เงินไปจากผู้เสียหายทั้งสี่ เหตุเกิดที่ตำบลเทพรักษา ตำบลดม อำเภอสังขะ และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน ส่วนคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 ของศาลชั้นต้นโจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างเดือนมกราคม 2545 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงประชาชนว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประเภทงานเกษตรกรรมได้ จนผู้เสียหายทั้งสองหลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งเงินจากผู้เสียหายทั้งสอง เหตุเกิดที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเฉนียง และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างต้นเดือนมกราคม 2545 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2545 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงประชาชนว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในตำแหน่งเกี่ยวกับงานเกษตรได้ จนผู้เสียหายทั้งแปดหลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งเงินจากผู้เสียหายทั้งแปด เหตุเกิดที่ตำบลดม อำเภอสังขะ และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน การกระทำความผิดของจำเลยคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น จึงมีวันกระทำความผิดต่างกันในเดือนเมษายน 2545 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2545 และเดือนเมษายน 2545 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 และความผิดดังกล่าวจำเลยมีเจตนากระทำต่อผู้เสียหายต่างคนกันด้วย การกระทำของจำเลยกับพวกแม้จะเป็นการหลอกลวงด้วยเจตนาในการกระทำผิดอย่างเดียวกันและการดำเนินการของจำเลยต่อผู้เสียหายเหมือนดังที่จำเลยฎีกา แต่จำเลยกับพวกหลอกลวงต่อบุคคลต่างราย เกิดขึ้นคนละสถานที่และต่างวันเวลากัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ฟ้องคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนกับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 4, 30, 82, 91 ตรี ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และนับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549, 426/2549 และ 652/2549 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอนับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 91 ตรี ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 12 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 8 ปี ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และ 652/2549 ของศาลชั้นต้น เนื่องจากในคดีดังกล่าวศาลยังมิได้มีคำพิพากษา จึงไม่อาจนับโทษต่อให้ได้ ให้ยกคำขอในส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวให้ลงโทษจำคุก 3 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ (ที่ถูก ฟ้องซ้อน) กับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้นหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุในคดีนี้และคดีดังกล่าวเป็นช่วงวันเวลาเดียวกันต่อเนื่องกัน ผู้เสียหายทั้งสี่ในคดีนี้เป็นผู้เสียหายกลุ่มเดียวกันกับผู้เสียหายในคดีดังกล่าว โดยจำเลยคอยแนะนำการตรวจโรคที่โรงพยาบาลรามาธิบดีทุกคน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างเดือนมกราคม 2545 ถึงเดือนมีนาคม 2545 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายทั้งสี่ว่าสามารถหางานให้ผู้เสียหายทั้งสี่ไปทำงานในต่างประเทศ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ จนผู้เสียหายทั้งสี่หลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้เงินไปจากผู้เสียหายทั้งสี่ เหตุเกิดที่ตำบลเทพรักษา ตำบลดม อำเภอสังขะ และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน ส่วนคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 ของศาลชั้นต้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างช่วงเดือนมกราคม 2545 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงประชาชนว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประเภทงานเกษตรกรรมได้ จนผู้เสียหายทั้งสองหลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งเงินจากผู้เสียหายทั้งสอง เหตุเกิดที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเฉนียง และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อระหว่างต้นเดือนมกราคม 2545 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2545 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกหลอกลวงประชาชนว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในตำแหน่งเกี่ยวกับงานเกษตรได้ จนผู้เสียหายทั้งแปดหลงเชื่อ ทำให้จำเลยกับพวกได้ไปซึ่งเงินจากผู้เสียหายทั้งแปด เหตุเกิดที่ตำบลดม อำเภอสังขะ และตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวพันกัน การกระทำความผิดของจำเลยคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น จึงมีวันกระทำความผิดต่างกันในเดือนเมษายน 2545 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2545 และเดือนเมษายน 2545 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 และความผิดดังกล่าวจำเลยมีเจตนากระทำต่อผู้เสียหายต่างคนกันด้วย การกระทำของจำเลยกับพวกแม้จะเป็นการหลอกลวงด้วยเจตนาในการกระทำผิดอย่างเดียวกัน และการดำเนินการของจำเลยต่อผู้เสียหายเหมือนกันดังที่จำเลยฎีกา แต่จำเลยกับพวกหลอกลวงต่อบุคคลต่างราย เกิดขึ้นคนละสถานที่และต่างวันเวลากัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนกับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 197/2549 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1015/2549 ของศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share