แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่หาว่าหลบหนีออกนอกเขตต์ที่กำหนดให้อยู่+บรรยายในฟ้องว่าจำเลยถูกจำกัดเขตต์ให้อยู่ที่ไหนนั้นนับว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นนักโทษ ถูกจำกัดเขตต์ตามพระราชบัญญัติดัดสันดานคนจรจัดและคนที่เคยต้องโทษหลายครั้ง ร.ศ.๑๒๗ มีกำหนด ๗ ปี จำเลยหลบหนีออกนอกเขตต์ที่กำหนด เหตุเกิดตำบลหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้ลงโทษจำเลยให้การว่าเป็นนักโทษถูกจำกัดเขตต์จริง แต่ไม่ได้หลบหนีออกนอกเขตต์
ศาลชั้นต้นสอบถาม โจทก์แถลงจะขอสืบพะยานในข้อที่จำเลยหลบหนีนอกเขตต์ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำฟ้องไม่ปรากฎว่าจำเลยถูกจำกัดเขตต์ให้อยู่ตำบลอะไร เป็นการขอสืบนอกฟ้อง จำเลยเสียเปรียบ จึงไม่ยอมให้สืบ และวินิจฉัยว่าเท่าที่โจทก์บรรยายฟ้อง ยังชี้ขาดไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ขาดข้อความสำคัญ เป็นการกล่าวอย่างคลุม ๆ ไม่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ว่าจำเลยออกจากไหนไป จึงว่าหลบหนีออกนอกเขตต์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ เพราะบรรยายข้อเท็จจริงไม่พอจะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มิได้กล่าวว่าจำเลยได้ถูกจำกัดเขตต์ให้อยู่ในที่ใด โจทก์กล่าวว่าเมื่อจำเลยหลบหีจากเขตต์ที่กำหนดให้อยู่แล้ว ต่อมาไปจับจำเลยที่หัวหิน และกล่าวว่าเหตุเกิดที่ตำบลหัวหินดังนี้ ฟ้องของโจทก์ย่อมเป็นการเคลือบคลุม เพราะบกพร่องในข้อสาระสำคัญ ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ ดังศาลล่างได้อธิบายไว้แล้ว จึงพิพากษายืน