คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 157 จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นเองโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ถ้าไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้วย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้ เมื่อขณะที่จำเลยทั้งสองมาเอารถยนต์แท็กซี่จากโจทก์ไป จำเลยที่ 2 แต่งเครื่องแบบตำรวจเท่านั้น ทั้งตามฎีกาโจกท์ยังยอมรับด้วยว่าจำเลยที่ 2 กระทำไปโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีอำนาจหน้าที่จะต้องทำแสดงว่าการไปเอารถยนต์แท็กซี่จากโจทก์นั้น มิใช่การกระทำที่เกี่ยวกับหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์แท็กซี่ หมายเลขทะเบียน มข 9572 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2546 เวลาประมาณ 22 นาฬิกา จำเลยทั้งสองได้ทำหนังสือมอบอำนาจปลอมขึ้นว่า จำเลยที่ 1 ได้รับมอบอำนาจจากนายโชคประเสริฐ สุขวรรณ ให้มายึดรถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าว และจำเลยทั้งสองใช้และแสดงหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวอันเป็นเอกสารที่จำเลยทั้งสองทำปลอมขึ้นแก่โจทก์ โจทก์จะไม่ยอมมอบรถยนต์แท็กซี่แก่จำเลยทั้งสอง แต่จำเลยที่ 2 อ้างว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ โจทก์จึงต้องมอบรถยนต์แท็กซี่ให้จำเลยทั้งสอง การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกันลักทรัพย์ของโจทก์ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และจำเลยที่ 2 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายทำให้โจทก์ต้องขาดรายได้ ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 157, 264, 265, 268, 334 และ 335
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์สำหรับข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาปลอมเอกสารไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง ส่วนข้อหาลักทรัพย์และใช้เอกสารปลอมมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268, 334, 335, 83 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 2 มีมูลความผิดในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เห็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นเองโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ถ้าไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้ว ย่อมเป็นความผิดตามมาตรานี้ ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องคงได้ความเพียงว่า ขณะที่จำเลยทั้งสองมาเอารถยนต์แท็กซี่จากโจทก์ไป จำเลยที่ 2 แต่งเครื่องแบบตำรวจเท่านั้น ทั้งตามฎีกาโจทก์ยังยอมรับด้วยว่าจำเลยที่ 2 กระทำไปโดยไม่มีกฎหมายรองรับไม่มีอำนาจหน้าที่จะต้องทำ แสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่าการไปเอารถยนต์แท็กซี่จากโจทก์นั้น มิใช่การกระทำที่เกี่ยวกับหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

Share