แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้สมาคมจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ ตามจำนวนสมาชิกกลุ่มที่ 2 ของสมาคมจำเลยที่มีอยู่ขณะผู้ตายถึงแก่กรรม โดยไม่วินิจฉัยให้เด็ดขาดลงไปว่าขณะผู้ตายถึงแก่กรรมมีจำนวนสมาชิกกลุ่มที่ 2 เหลืออยู่เท่าใด ทั้งๆ ที่สมาคมจำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้แล้ว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา141 (5) แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสมาคมจำเลยต้องจ่ายเงินให้โจทก์เต็มตามฟ้อง ศาลฎีกาย่อมแก้ให้ถูกต้องได้เพราะศาลชั้นต้นได้พิพากษาไว้ด้วยว่าให้สมาคมจำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์ไม่เกินคำขอท้ายฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 40/2515)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายเจี่ย แซ่ลี้ เป็นสมาชิกประเภทตลอดชีพของสมาคมจำเลยระบุให้โจทก์เป็นผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการจากสมาคมจำเลยเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๐ นายเจี่ย แซ่ลี้ ถึงแก่กรรมตามระเบียบโจทก์จะได้รับจ่ายเงินสงเคราะห์จากสมาคมจำเลยหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเป็นเงิน ๑๑,๒๕๐ บาท แต่จำเลยไม่ยอมชำระให้ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการตามฟ้องแต่จำนวนสมาชิกฟังไม่ได้แน่นอนว่ามีจำนวนเท่าใด จึงไม่อาจคำนวณเงินสวัสดิการให้โจทก์เป็นจำนวนคงที่ได้แต่ก็ต้องให้โจทก์ได้รับอย่างน้อยเท่าที่นายเจี่ย แซ่ลี้ ได้ชำระไว้เมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก ซึ่งเป็นเงิน ๒,๒๐๐ บาทพิพากษาให้สมาคมจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ตามจำนวนสมาชิกกลุ่มที่ ๒ของสมาคมของจำเลยที่มีอยู่ขณะนายเจี่ย แซ่ลี้ ถึงแก่กรรม แต่ไม่เกินคำขอท้ายฟ้อง แต่ทั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่าจำนวน ๒,๒๐๐ บาทเท่าที่นายเจี่ยแซ่ลี้ ต้องเสียให้สมาคมจำเลยเมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า สมาชิกกลุ่มที่ ๒ ยังคงมีอยู่เต็มจำนวนโจทก์ควรได้รับค่าสวัสดิการเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วเป็นเงิน ๑๑,๒๕๐ บาทตามฟ้องแต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข พิพากษายืนโดยผลตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะนายเจี่ย แซ่ลี้ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มที่ ๒ถึงแก่กรรม สมาชิกในกลุ่มนี้มีอยู่เต็มจำนวน ๓,๐๐๐ คนโจทก์ควรได้รับเงินสวัสดิการเมื่อหักค่าใช้จ่ายร้อยละ ๒๕ แล้วเป็นเงิน ๑๑,๒๕๐ บาท สมาคมจำเลยต้องจ่ายเงินจำนวนนี้ให้โจทก์ แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้สมาคมจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ตามจำนวนสมาชิกกลุ่มที่ ๒ ของสมาคมจำเลยที่มีอยู่ในขณะนายเจี่ย แซ่ลี้ถึงแก่กรรมโดยไม่วินิจฉัยให้เด็ดขาดลงไปว่าขณะนายเจี่ย แซ่ลี้ถึงแก่กรรม มีจำนวนสมาชิกกลุ่มที่ ๒ เหลืออยู่เท่าใด ทั้งที่สมาคมจำเลยให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้แล้วไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๑(๕) แม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสมาคมจำเลยต้องจ่ายเงินให้โจทก์เต็มตามฟ้อง ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่มีมติว่าศาลฎีกาแก้ให้ถูกต้องได้เพราะศาลชั้นต้นได้พิพากษาไว้ด้วยว่าให้สมาคมจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ไม่เกินคำขอท้ายฟ้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้สมาคมจำเลยจ่ายเงิน ๑๑,๒๕๐ บาท แก่โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์