แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นออกหมายจับจำเลยเพื่อเอาตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ได้ตัวมาภายใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลย ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย เมื่อปรากฏว่าไม่มีตัวจำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้และกรณีไม่เข้า มาตรา 201 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)พ.ศ.2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยทั้ง 2 ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษเฉพาะจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 15 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
ตามสำนวนปรากฏว่าจำเลยที่ 1 หลบหนี ศาลชั้นต้นออกหมายจับแต่ไม่ได้ตัวใน 1 เดือน จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลยที่ 1
ทนายจำเลยที่ 1 ฎีกาแทนจำเลยที่ 1 ขึ้นมา
เมื่อปรากฏว่าไม่มีตัวจำเลยที่ 1 ศาลฎีกาจะพิจารณาคดีของจำเลยผู้นี้ยังไม่ได้ และกรณีไม่เข้าบทบัญญัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 201 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา 15 เพราะไม่ใช่เรื่องที่ส่งสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ