แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีน แต่คำขอท้ายฟ้องไม่ได้อ้างมาตรา 57 และมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นบทความผิดและบทลงโทษมาด้วย ดังนั้น ฟ้องโจทก์จึงขาดการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.อ. มาตรา 158 (6) ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์สำหรับการกระทำความผิดฐานนี้ และลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 100/1, 102 ริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน ส่วนข้อหาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 91 การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต และปรับคนละ 1,000,000 บาท ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 25 ปี และปรับ 500,000 บาท ในส่วนของจำเลยที่ 2 ความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทางนำสืบของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 37 ปี 6 เดือน และปรับ 750,000 บาท และความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 37 ปี 9 เดือน และปรับ 750,000 บาท หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังแทนค่าปรับเกินหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงจำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน 3 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับความผิดของจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คู่ความไม่อุทธรณ์ จึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ เห็นว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสองปากซึ่งอ้างถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนจับกุมจนนำไปสู่การจับกุมจำเลยทั้งสองได้ในที่เกิดเหตุและมีการยึดเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสของกลางได้จากจำเลยที่ 1 สอดคล้องกับคำเบิกความของจำเลยที่ 1 ที่รับว่าจำเลยที่ 1 เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อส่งมอบเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสให้แก่ผู้ซื้อ ทั้งยังสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสอง ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การไว้ว่า มีการยึดเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสของกลางได้ที่ในกำมือของจำเลยที่ 1 ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ขับรถพาจำเลยที่ 1 ไปยังที่เกิดเหตุในเวลากลางดึกและยังลงจากรถเดินไปยังร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ซึ่งเป็นจุดนัดหมายส่งมอบเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสกับจำเลยที่ 1 โดยเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกที่จำเลยที่ 1 กำไว้ในมือก็มีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย ตามภาพถ่ายเอกสาร แนบท้ายคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดเป็นการกระทำผิดกฎหมายมีอัตราโทษสูง จำเลยที่ 1 ต้องปกปิดการกระทำความผิดไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ หากจำเลยที่ 2 ไม่ได้ร่วมเป็นตัวการกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 คงไม่ให้จำเลยที่ 2 ไปร่วมรู้เห็นด้วย โดยให้เป็นผู้ขับรถพาจำเลยที่ 1 ไปยังที่เกิดเหตุ นอกจากนี้จำเลยที่ 2 ยังเสพเมทแอมเฟตามีนมาด้วยอันแสดงว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสองปากประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีบ่งชี้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมรู้เห็นกับจำเลยที่ 1 ในการนำเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสไปส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อจริง พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง ส่วนข้อที่จำเลยที่ 2 นำสืบอ้างว่า จำเลยที่ 2 ไม่รู้ว่าจำเลยที่ 1 จะนำเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสไปส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ เหตุที่ขับรถพาจำเลยที่ 1 มายังที่เกิดเหตุเพราะรุ่นน้องคือนางสาวน้ำหวาน ขอให้ขับรถไปส่ง ขัดแย้งกับคำเบิกความของจำเลยที่ 1 ซึ่งอ้างว่าจำเลยที่ 1 สนิทกับนางสาวน้ำหวาน ซึ่งเป็นน้องสาวของจำเลยที่ 2 และได้ขอให้นางสาวน้ำหวานช่วยหาคนขับรถไปส่งยังที่เกิดเหตุ ทั้งจำเลยที่ 2 ไม่ได้นำนางสาวน้ำหวานมาเบิกความสนับสนุน ข้ออ้างดังกล่าวจึงเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ส่วนที่จำเลยที่ 2 นำสืบอ้างว่าเหตุที่จำเลยที่ 2 เดินตามจำเลยที่ 1 ไปที่ร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์เพราะต้องการดูตู้ปลาซึ่งตั้งอยู่ภายในร้านด้านหน้านั้น เห็นว่า ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การเกี่ยวกับข้อเท็จจริงดังกล่าวไว้ ประกอบกับข้ออ้างดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเช่นกัน พยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 ไม่อาจรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 เดินทางนำเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสของกลางไปส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อในที่เกิดเหตุ และถูกจับได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนชนิดผลึกใสของกลาง อันเป็นความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในความผิดฐานนี้มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีน แต่ในคำขอท้ายฟ้องไม่ได้อ้างมาตรา 57 และมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นบทความผิดและบทลงโทษมาด้วย ดังนั้น ฟ้องโจทก์จึงขาดการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์สำหรับการกระทำความผิดฐานนี้ และลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ไม่ได้ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน นอกจากที่แก้ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น