คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10028/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ ร. ถึงแก่ความตายทำให้สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับไปก็ตาม แต่ในการริบทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 นั้น เป็นบทบัญญัติของกฎหมายพิเศษจึงต้องดำเนินคดีต่อไปภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงจากทางนำสืบของผู้ร้องรับฟังได้แล้วว่า ร. เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อพยานหลักฐานของผู้คัดค้านทั้งสองที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าทรัพย์สินทั้ง 4 รายการไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือผู้คัดค้านทั้งสองได้รับมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือได้มาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาริบทรัพย์สินทั้ง 4 รายการให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเรวัติหรือเรวัต ต่อศาลชั้นต้นตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2468/2547 หมายเลขแดงที่ 308/2548 ข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติ ปรากฏว่านายเรวัติเป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือเคยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน และนายเรวัติหรือผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ว่าทรัพย์สินที่ถูกตรวจสอบ 9 รายการ คือ เงินสด 350,000 บาท โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อโนเกีย 2 เครื่อง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กน 941 นนทบุรี เงินฝากในบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัชดา สี่แยกสาธุประดิษฐ์ เลขบัญชีที่ 195 – 4 – 33516 – 0 ชื่อบัญชีนายเรวัติหรือเรวัต เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 -39986 – 8 ชื่อบัญชีนายเรวัติหรือเรวัต เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสำเหร่ เลขบัญชีที่ 113 – 1 – 13334 – 8 ชื่อบัญชีนายเรวัติหรือเรวัต เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 40947 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี และเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสุขุมวิท 63 เลขบัญชีที่ 361 – 1 – 08450 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี เป็นทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือได้รับโอนทรัพย์สินมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวินิจฉัยว่า ทรัพย์สินดังกล่าว เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินทั้ง 9 รายการ ไว้ ตามคำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินที่ 1131/2547 ลงวันที่ 14 กันยายน 2547 ขอให้มีคำสั่งริบทรัพย์สินทั้ง 9 รายการดังกล่าวให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา27, 29, 31
ศาลชั้นต้นได้สั่งให้ประกาศในหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายแล้ว
ผู้คัดค้านทั้งสองคัดค้านขอให้ยกคำร้อง และคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้านทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า มีคำสั่งให้ริบเงินสด 350,000 บาท โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น 8250 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น 7650 จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กน 941 นนทบุรี เงินฝากในบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัชดา สี่แยกสาธุประดิษฐ์ เลขบัญชีที่ 195 – 4 – 33516 – 0 ชื่อบัญชีนายเรวัต พร้อมดอกเบี้ย เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 39986 – 8 ชื่อบัญชีนายเรวัต พร้อมดอกเบี้ย เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสำเหร่ เลขบัญชีที่ 113 – 1 – 13334 – 8 ชื่อบัญชีนายเรวัต พร้อมดอกเบี้ย เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 40947 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี พร้อมดอกเบี้ย และเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสุขุมวิท 63 เลขบัญชีที่ 361 – 1 – 08450 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี พร้อมดอกเบี้ย ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 29, 31
ผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า นายเรวัติถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้ถูกผู้ร้องเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้นในความผิดดังกล่าวตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2468/2547 ในส่วนของการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติและผู้คัดค้านที่ 1 ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายเรวัติและผู้คัดค้านที่ 1 จำนวน 9 รายการ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านทั้งสองว่า ทรัพย์สิน 4 รายการ คือ เงินสด 350,000 บาท รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กน 941 นนทบุรี เงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 40947 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี และเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสุขุมวิท 63 เลขบัญชีที่ 361 – 1 – 08450 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ผู้ร้องมีร้อยตำรวจเอกปรมินทร์ ผู้ร่วมจับกุมนายเรวัติ และพันตำรวจโทอารยา พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินเบิกความเป็นพยานว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2547 เวลา 16.30 นาฬิกา ร้อยตำรวจเอกปรมินทร์ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีชายอายุประมาณ 40 ปี ผิวขาว ผอมสูง นำเมทแอมเฟตามีนมาส่งให้แก่ลูกค้าที่สถานีบริการน้ำมันคิวเอท ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นร้อยตำรวจเอกปรมินทร์กับพวกไปซุ่มดูที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันดังกล่าว พบนายเรวัติซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามที่สายลับแจ้งขับรถยนต์ยี่ห้อนิสสันเข้ามาจอดภายในลานจอดรถของสถานีบริการน้ำมันดังกล่าว จากนั้นนายเรวัติลงจากรถยนต์ ถือกระเป๋าสีดำมายืนรอ ร้อยตำรวจเอกปรมินทร์จึงเข้าไปแสดงตัวและขอตรวจค้น ปรากฏว่าพบเมทแอมเฟตามีน 2,000 เม็ด บรรจุในห่อกระดาษสีน้ำตาลอยู่ในกระเป๋าดังกล่าว และพบกุญแจห้องพัก 2 ชุด กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เครื่อง ที่ตัวนายเรวัติ โดยนายเรวัติรับว่าเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของนายเรวัติจะนำมาส่งให้ลูกค้า จึงแจ้งข้อหาแก่นายเรวัติว่า มียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย นายเรวัติให้การรับสารภาพและแจ้งว่ากุญแจที่ค้นพบเป็นกุญแจห้องพักเลขที่ 209 และ 313 เค.ดี แมนชั่น ถนนพระราม 3 แขวงบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร และในห้องทั้งสองดังกล่าวยังมีเมทแอมเฟตามีนอีก ร้อยตำรวจเอกปรมินทร์ขอหมายค้นแล้วนำนายเรวัติพร้อมหมายค้นไปตรวจค้นห้องเลขที่ 209 พบเมทแอมเฟตามีน 4,000 เม็ด บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีน้ำตาลลักษณะเดียวกับที่ค้นพบที่ตัวนายเรวัติ และพบสมุดบัญชีเงินฝาก 4 เล่ม กับเงินสด 350,000 บาท นายเรวัติรับว่าเมทแอมเฟตามีนและทรัพย์สินที่ค้นพบดังกล่าวเป็นของนายเรวัติ หลังจากนั้นได้นำนายเรวัติไปตรวจค้นห้องเลขที่ 313 พบเมทแอมเฟตามีน 140,000 เม็ด บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีน้ำตาลลักษณะเดียวกับที่ค้นพบที่ตัวนายเรวัติซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ นายเรวัติรับว่าเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของนายเรวัติ และรับว่าได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องเลขที่ 209 กับผู้คัดค้านที่ 1 ฉันสามีภรรยา ร้อยตำรวจเอกปรมินทร์ได้ยึดเมทแอมเฟตามีนที่ค้นพบทั้งหมด รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กน 941 นนทบุรี สมุดบัญชีเงินฝากของนายเรวัติ 2 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากของผู้คัดค้านที่ 1 จำนวน 2 เล่ม โทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เครื่อง เงินสด 350,000 บาท และกุญแจห้องพักทั้งสองห้องดังกล่าวไว้เป็นของกลาง โดยเชื่อว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามบันทึกการตรวจยึดทรัพย์สินและนำตัวนายเรวัติพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ในชั้นสอบสวนนายเรวัติให้การรับสารภาพ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รายงานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทราบถึงการจับกุมนายเรวัติและให้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มีคำสั่งที่ 1551/2547 ให้ตรวจสอบทรัพย์สิน มอบหมายให้พันตำรวจโทอารยาพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติ หลังจากนั้นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินดังกล่าวของนายเรวัติและผู้คัดค้านที่ 1 ไว้ชั่วคราว จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของนายเรวัติ ปรากฏว่ามีเงินฝากที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัชดา สี่แยกสาธุประดิษฐ์ เลขบัญชีที่ 195 – 4 – 33516 – 0 จำนวน 427,000 บาท ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 39986 – 8 จำนวน 100,000 บาทเศษ และที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสำเหร่ เลขบัญชีที่ 113 – 1 – 13334 – 8 จำนวน 500 บาทเศษ และตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้คัดค้านที่ 1 ปรากฏว่ามีเงินฝากที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 40947 – 2 จำนวน 5,000 บาทเศษ และที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสุขุมวิท 63 เลขบัญชีที่ 361 – 1 – 08450 – 2 จำนวน 75,000 บาทเศษ สำหรับรถยนต์ของกลางได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่านางสุมาลี เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้เรียกนางสุมาลีมาให้ปากคำ นางสุมาลีมีหนังสือชี้แจงว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติและผู้คัดค้านที่ 1 แล้วมีความเห็นว่าทรัพย์สินทั้ง 9 รายการ ดังกล่าวเป็นของเรวัติที่ได้มาเกินกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพโดยสุจริตและเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต่อมาคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินได้มีคำสั่งที่ 1131/2547 ลงวันที่ 14 กันยายน 2547 ให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของนายเรวัติและผู้คัดค้านที่ 1 และรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาล หลังจากผู้ร้องยื่นคำร้องแล้ว เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้นายเรวัติ ผู้คัดค้านที่ 1 และผู้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินดังกล่าวทราบแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องมีเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมนายเรวัติและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติเบิกความเป็นพยาน โดยพยานทั้งสองได้กระทำการไปตามอำนาจหน้าที่ จับกุมนายเรวัติได้ขณะกระทำความผิดและทำการตรวจสอบทรัพย์สินของนายเรวัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด น่าเชื่อว่าทรัพย์สินที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินยึดและอายัดมานั้นเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สำหรับรายการทรัพย์สินที่เป็นเงินสด 350,000 บาท ร้อยตำรวจเอกปรมินทร์เบิกความว่า ในขณะนำตัวนายเรวัติไปตรวจค้นห้องพักเลขที่ 209 ปรากฏว่าพบเมทแอมเฟตามีน 4,000 เม็ด เงินสด 350,000 บาท และสมุดบัญชีเงินฝาก 4 เล่ม ซึ่งนายเรวัติรับต่อร้อยตำรวจเอกปรมินทร์ว่าเงินสดจำนวนดังกล่าวเป็นของตน แม้ในชั้นตรวจสอบทรัพย์สินนายเรวัติจะอ้างต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินว่า ไม่ทราบเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของใครและได้มาอย่างไร แต่เมื่อจำนวนเงินดังกล่าวถูกค้นพบภายในห้องพักของนายเรวัติ ซึ่งใช้ซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีนไว้จึงถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของนายเรวัติและน่าเชื่อว่าเป็นของนายเรวัติทั้งเงินสด 350,000 บาท นับว่าเป็นเงินจำนวนมาก หากเป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริตนายเรวัติก็ชอบที่จะนำเงินดังกล่าวไปฝากธนาคารจะปลอดภัยกว่า การที่นายเรวัติเก็บเงินจำนวนมากไว้ในห้องพัก เชื่อว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่นายเรวัติได้มาจากการขายและใช้หมุนเวียนในการซื้อขายเมทแอมเฟตามีน อันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ผู้คัดค้านที่ 1 นำสืบต่อสู้ว่า ตนประกอบอาชีพหมอนวด และเป็นโรคเอดส์ นายเม้งให้เงินสดดังกล่าวมาเพื่อรักษาตัวนั้น ผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ได้มาเบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยที่อ้างเหตุขัดข้องว่าเป็นโรคเอดส์ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าป่วยในระยะใด มีอาการหนักเพียงใดจึงไม่สามารถมาเบิกความต่อศาลได้ ที่ผู้คัดค้านที่ 1 อ้างว่าร้อยตรีสมชัย ทนายความ มาเป็นพยานเบิกความต่อศาลกล่าวอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรีสมชัยก็เป็นเพียงผู้ได้รับทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวมาจากผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งจะเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ว่าที่ร้อยตรีสมชัยก็ไม่อาจยืนยันได้ จึงมีน้ำหนักน้อย อีกทั้งผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ได้นำตัวนายเม้งหรือบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของเงินดังกล่าวมาเบิกความต่อศาล เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงการเป็นเจ้าของเงินสด 350,000 บาท ประกอบกับผู้คัดค้านที่ 1 ไม่เคยโต้แย้งสิทธิในเงินดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน พยานหลักฐานของผู้คัดค้านที่ 1 ในส่วนนี้จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าเงินสดดังกล่าวเป็นของผู้คัดค้านที่ 1 ส่วนเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ เลขบัญชีที่ 066 – 2 – 40947 – 2 ชื่อบัญชีนางสาวเปรมฤดี และเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสุขุมวิท 63 เลขบัญชีที่ 361 – 1 – 08450 – 2 ชื่อบัญชี นางสาวเปรมฤดี นั้น เห็นว่า ขณะที่นายเรวัติพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 209 เค.ดี แมนชั่น นายเรวัติได้เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัชดา สี่แยกสาธุประดิษฐ์ และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ ประมาณเดือนตุลาคม 2546 แสดงว่านายเรวัติได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าวก่อนเกิดเหตุเป็นระยะเวลาพอสมควร เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับการที่ผู้คัดค้านที่ 1 เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสี่แยกสะพานกรุงเทพ โดยระบุในคำขอเปิดบัญชีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2547 แสดงว่า ผู้คัดค้านที่ 1 พักอาศัยอยู่ที่เดียวกับนายเรวัติ และเป็นการเปิดบัญชีเงินฝากหลังจากที่อยู่ร่วมกับนายเรวัติแล้ว เชื่อว่านายเรวัติกับผู้คัดค้านที่ 1 อยู่ร่วมในห้องพักดังกล่าว โดยมีความสัมพันธ์กันฉันสามีภรรยา การที่ผู้คัดค้านที่ 1 ประกอบอาชีพหมอนวด ก็มิได้แสดงให้เห็นว่าตนมีรายได้เท่าใด และไม่ปรากฏหลักฐานจากการตรวจสอบภาษีของผู้คัดค้านที่ 1 ว่าได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เพราะผู้คัดค้านที่ 1 ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี ผู้คัดค้านที่ 1 จึงไม่อาจแสดงที่มาของเงินฝากในบัญชีเงินฝากได้ เชื่อว่าเงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารในนามของผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเงินที่ได้มาจากนายเรวัติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กน 941 นนทบุรี ผู้คัดค้านที่ 2 อ้างว่าเป็นของตน แต่ใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ไม่ใช่หลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้น เป็นเพียงหลักฐานที่กำหนดขึ้นตามระเบียบพิธีการเพื่อสะดวกแก่การควบคุมและเสียภาษีรถยนต์ประจำปีเท่านั้น ขณะเกิดเหตุรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของนายเรวัติโดยผู้คัดค้านที่ 2 ก็มิได้มาเบิกความว่าไปอยู่ในความครอบครองของนายเรวัติได้อย่างไร เชื่อว่ารถยนต์เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเช่นกันและที่ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกาว่า นายเรวัติถึงแก่ความตายในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จึงยังรับฟังไม่ได้ว่านายเรวัติเป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น เห็นว่า แม้นายเรวัติถึงแก่ความตายทำให้สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องระงับไปก็ตาม แต่ในการริบทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น เป็นบทบัญญัติของกฎหมายพิเศษจึงต้องดำเนินคดีต่อไปภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวซึ่งข้อเท็จจริงจากทางนำสืบของผู้ร้องรับฟังได้แล้วว่านายเรวัติเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อพยานหลักฐานของผู้คัดค้านทั้งสองที่นำสืบมาไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าทรัพย์สินทั้ง 4 รายการไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือผู้คัดค้านทั้งสองได้รับมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนหรือได้มาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาริบทรัพย์สินทั้ง 4 รายการให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจึงชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share