แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชีไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง นับแต่วันผิดนัดซึ่งหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชีดังกล่าวให้ชดใช้เป็นรายเดือน กำหนดชำระเสร็จใน 12 เดือน เริ่มชดใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2545 เป็นต้นไป อันเป็นการผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นงวด แม้ไม่ได้ระบุว่าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเวลาที่ตกลงไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใดก็ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาทั้งหมดนับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 ไม่ใช่ผิดนัดเฉพาะเพียงงวดนั้นแต่อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 647,711 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 463,777 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระให้ยึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ดิน 174 เลขที่ดิน 124 ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินตามโฉนดเลขที่ 32492 ตำบลกุดเสลา อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสิ่งปลูกสร้างทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 463,733 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยจำเลยที่ 2 รับผิดในต้นเงิน 50,000 บาท จำเลยที่ 3 รับผิดในต้นเงิน 200,000 บาท หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระให้ยึดทรัพย์ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 174 เลขที่ดิน 124 ตำบลตบหู อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 32492 ตำบลกุดเสลา อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเท่าใดและจำเลยที่ 1 ผิดนัดเมื่อใด โจทก์อุทธรณ์เพียงว่า โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดตามหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชี ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่าหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชีดังกล่าวไม่ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่ง นับแต่วันผิดนัดซึ่งหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชีดังกล่าวให้ชดใช้เป็นรายเดือน กำหนดชำระเสร็จใน 12 เดือน เริ่มชดใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2545 เป็นต้นไป อันเป็นการผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นงวด แม้ไม่ได้ระบุว่าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเวลาที่ตกลงกันไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใดก็ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาทั้งหมด ไม่ใช่ผิดนัดเฉพาะเพียงงวดนั้นแต่อย่างใด จึงถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระหนี้ตามหนังสือรับชดใช้สินค้าขาดบัญชี โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าว ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จนั้น จึงไม่ชอบ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 460,327 บาท นับแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง