คำสั่งคำร้องที่ 997/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าตามฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ อันเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับ จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่าการที่โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวเบิกความเป็นโทษแก่จำเลย สมควรที่ศาลจะรับฟัง ลงโทษจำเลยได้หรือไม่และเมื่อกรณีเป็นที่สงสัยว่าจำเลย กระทำผิดหรือไม่ สมควรจะยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย หรือไม่นั้นมิได้โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลอุทธรณ์ แต่เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 74) ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) จำคุก 2 เดือน ปรับ 1,000 บาทไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อนทั้งพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุร้ายแรง เห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 71) จำเลย ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 72)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 เดือน ปรับ 1,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฎีกาของจำเลยที่ว่าการที่โจทก์มีประจักษ์พยานเพียงปากเดียวเบิกความเป็นโทษแก่ จำเลยสมควรที่ศาลจะรับฟังลงโทษจำเลยได้หรือไม่ และสมควรที่จะ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยหรือไม่นั้น เป็นการ โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ จึงเป็น ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share