แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา มีทางชนะคดี เนื่องจากจำเลยทั้งสอง ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดนอกจากเงินเดือนของจำเลยที่ 1 และ เงินบำเหน็จของจำเลยที่ 2 หากภายหลังศาลมีคำพิพากษา ให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลายหรือมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาดแล้ว โจทก์จะได้รับความเสียหาย โปรดมีคำสั่ง คุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โดยขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อายัดเงินเดือนของจำเลยที่ 1 ไว้เป็นเงินเดือนละ 3,625 บาท และอายัดเงินบำเหน็จของ จำเลยที่ 2 จากสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดพิษณุโลกไว้ จำนวน 173,000 บาท โปรดอนุญาต หมายเหตุ จำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 120) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา พร้อมยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 114,116)
คำสั่ง คำร้องขอคุ้มครองสิทธิของโจทก์นี้มุ่งประสงค์ให้ศาลฎีกา มีคำสั่งเพื่อคุ้มครองเงินเดือนและเงินบำเหน็จซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับไว้แล้วตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของศาลชั้นต้น ทั้งนี้เพื่อมิให้โจทก์ได้รับความเสียหาย หากภายหลังจำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เก็บเงินเดือนของจำเลยที่ 1และเงินบำเหน็จของจำเลยที่ 2 ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับไว้แล้วตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของศาลชั้นต้นต่อไปในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา