แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทอันอาจให้เช่าได้ ในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละห้าพันบาท แม้จำเลยจะให้การ ต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของ แผ่นดิน ไม่ใช่ที่งอกอันเป็นที่ดินของโจทก์ ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลย ได้ให้การยกข้อต่อสู้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ คดีของโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารของจำเลยทั้งหมดออกไปจากที่ดิน โฉนดเลขที่ 14693, 14694, 14695 ตำบลบ้านโป่งอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งที่งอกริมตลิ่งของที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าวของโจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์เดือนละ 700 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยและบริวารของจำเลยจะออกไปจากที่ดินดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง
โจทก์จึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า “โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละห้าพันบาทแม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่ใช่ที่งอกอันเป็นที่ดินของโจทก์ ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ให้การยกข้อต่อสู้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าวชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”