แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา จำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่นำส่ง สำเนาฎีกาให้โจทก์แต่ประการใด ทนายจำเลยที่ 1 ได้ติดตามดูคำสั่งศาล เกี่ยวกับฎีกาของจำเลยในการ์ดคำสั่งที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ หลายครั้งแต่ก็ไม่ปรากฏคำสั่งศาลและทนายจำเลยที่ 1 ได้ขอนำหมายล่วงหน้าไว้แล้วเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2534 ทนายจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนานำหมายล่าช้า ขอศาลโปรด มีคำสั่งให้ระยะเวลาให้ทนายจำเลยที่ 1 ได้มีโอกาสนำหมายศาล และสำเนาฎีกาส่งให้แก่โจทก์อีกครั้งหนึ่ง
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน595,514 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปี นับแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2530 จนกว่าจะชำระให้โจทก์ เสร็จสิ้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ารับเป็นฎีกาของจำเลย สำเนาให้โจทก์ให้จำเลยนำส่งภายใน 5 วัน หากส่งไม่ได้ ให้จำเลยแถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วัน นับแต่ วันส่งไม่ได้ หากไม่แถลงให้ถือว่าทิ้งฟ้องฎีกา (อันดับ 124)
ปรากฎว่าพ้นกำหนดระยะเวลาในการนำหมายแล้วจำเลยที่ 1 หรือผู้แทนจำเลยที่ 1 ไม่มาเสียค่าธรรมเนียมในการส่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าส่งศาลฎีกา (อันดับ 127)
ศาลฎีกาทำคำสั่งแล้ว และส่งสำนวนไปศาลชั้นต้นเพื่อนัดฟังคำสั่ง
ก่อนวันฟังคำสั่ง จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยมีคำแถลงประกอบ (อันดับ 132,131 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 เสียก่อนเสร็จแล้วให้ส่งสำนวนคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินใหม่ต่อไป