คำสั่งคำร้องที่ 945/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 ฎีกา คดีมีเหตุผลที่จะชนะจำเลยในชั้นฎีกาทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โปรดอนุญาตให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลฎีกา
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 255)
กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 ฟ้องจำเลยขอแสดงสิทธิครอบครอง ขับไล่ และเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์จำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ที่ 3 ที่ 5 ศาลชั้นต้นสั่งรวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกนายเทียน เชาว์เฉียบนางเทื่องปรีเปรมนางทองปรีเปรมนายอองเชาว์เฉียบและนายหวลปรีเปรม เป็นโจทก์ที่ 1ถึงที่ 5 ตามลำดับ และเรียกนายสนิท วิศิษฐ์ศิลป์ เป็นจำเลย คดีถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้โจทก์ที่ 3 ที่ 5และบริวารรื้อถอนบ้านเรือนขนย้ายสัมภาระออกไปจากที่ดินซึ่งเป็นของจำเลย ให้โจทก์ที่ 3ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 150 บาท และโจทก์ที่ 5ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 160 บาท แก่จำเลยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2521เป็นต้นไปจนกว่าจะรื้อถอนบ้านเรือนขนย้ายออกไปจากที่ดินดังกล่าวเสร็จสิ้นศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี โจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 ยื่นคำร้องว่าโจทก์ที่ 3 และที่ 5 มีสิทธิเช่านาพิพาทจากจำเลยช่วงละ 6 ปี และจำเลยยังไม่ได้บอกเลิกการเช่าโดยชอบตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 และพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 บ้านเรือนของโจทก์ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โจทก์ที่ 1 ที่ 4 ไม่ใช่บริวารของโจทก์ที่ 3 และที่ 5 ขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องดังกล่าวว่า คดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยข้อที่โจทก์ยกขึ้นมาอ้างตามคำร้องให้ยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์ทั้งสามต่อไป แล้วมีคำสั่งใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วและข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ฝ่ายโจทก์เป็นผู้ทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจากจำเลย เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าจำเลยได้บอกเลิกการเช่าโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เช่นนี้ สัญญาเช่าที่ดินพิพาทย่อมสิ้นสุดลงการที่ฝ่ายโจทก์หยิบยกเอาพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 ซึ่งไม่เป็นประเด็นข้อพิพาทกันมาก่อนขึ้นต่อสู้ในชั้นนี้จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นเป็นเรื่องไร้สาระที่ศาลไม่พึงรับวินิจฉัย ดังนั้นโจทก์และบริวารจำต้องรื้อถอนบ้านเรือนขนย้ายสัมภาระออกไปจากที่ดินพิพาท ซึ่งมีผลเท่ากับยกคำร้องของโจทก์ทั้งสาม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 251,250)
โจทก์เคยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง (อันดับ 238)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ข้ออ้างของโจทก์ที่ 1 ซึ่งโต้แย้งว่ามิใช่เป็นบริวารของโจทก์ที่ 3 และที่ 5 นั้น เป็นการโต้เถียงในข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยเป็นที่สุดแล้ว โดยฟังว่าโจทก์ที่ 1 เป็นบริวาร ส่วนข้ออ้างของโจทก์ที่ 3 และที่ 5 ว่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา และพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรนั้น ก็เป็นเรื่องนอกเหนือไปจากประเด็นที่พิพาทกันในคดีนี้ โจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 จึงไม่อาจอ้างเหตุดังกล่าวเพื่อขอทุเลาการบังคับได้ ให้ยกคำร้อง

Share