แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2528ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 ในคดีนี้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2 มีความประสงค์ขอรับมรดกความต่อจากจำเลยที่ 2ผู้ถึงแก่กรรม โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 110)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนเสาไฟฟ้าของจำเลยออกไปให้พ้นจากเขตที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งระหว่างพิจารณา นางกานดาอุไรสินธว์ ยื่นคำร้องสอดขอเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต และให้เรียกนายประเสริฐอุไรสินธว์ว่าจำเลยที่1นางกานดาอุไรสินธว์ ว่า จำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนเสาไฟฟ้าพิพาทออกไปจากเขตที่ดินของโจทก์ ฯลฯ ยกฟ้องแย้งของจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ และให้โจทก์ไปจดทะเบียนการจำยอมการใช้เขตที่ดินโฉนดเลขที่ 9138 ตำบลบางลำภูล่าง(บางไส้ไก่ฝั่งเหนือ)อำเภอคลองสาน (บางลำภูล่าง)นครหลวงกรุงเทพธนบุรี เป็นที่ตั้งเสาไฟฟ้าของจำเลยตามฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง ถ้าไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 96)
ทนายจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาฎีกาแล้ว เฉพาะจำเลยที่ 1ยื่นคำแก้ฎีกา (อันดับ 100,102)
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปให้ศาลฎีกาพิจารณาสั่งต่อไป (อันดับ 103,113)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามการไต่สวนของศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2528 และจำเลยที่ 1ผู้ขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่เป็นสามีจำเลยที่ 2 ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นทายาทและเป็นผู้ปกครองทรัพย์มรดกของจำเลยที่ 2จึงอนุญาตให้จำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยที่ 2ผู้มรณะได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42
