คำสั่งคำร้องที่ 937/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำสั่งศาลอุทธรณ์ในเรื่องการขอทุเลาการบังคับระหว่าง อุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 เป็นเรื่อง อยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ จำเลยไม่มีสิทธิยื่นฎีกา คัดค้านเกี่ยวกับคำสั่งนี้ จึงไม่รับฎีกาจำเลยทั้งสอง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 นั้น ไม่ได้ระบุห้ามจำเลยฎีกาและถ้าให้จำเลยต้องออกจาก ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์หากศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจผิดจะทำให้เกิด ความเสียหายและเป็นผลร้ายแก่จำเลยทั้งสอง จำเลย ทั้งสองน่าจะได้รับความคุ้มครองจากศาลฎีกาอีกครั้งหนึ่งโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองพร้อมด้วยบริวารรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างและขนย้ายดินลูกรังออกไปจากที่ดินพิพาทตาม น.ส.3 เลขที่ 486 ตำบลสามกระหาย อำเภอกุยบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ
ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องว่า พิเคราะห์แล้ว คดีไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คำสั่งของศาลในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะศาลเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งในเรื่องทุเลาการบังคับอย่างใดแล้ว คู่ความจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้องค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share