แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอานาถา หากศาลมีคำสั่งยกคำขอ โจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรค 4หรือจะเลือก ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นตามมาตรา 156 วรรค 5 เพียง อย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อโจทก์เลือกใช้สิทธิตามมาตรา 156 วรรค 4 แล้ว และศาลภาษีอากรกลางสั่งยกคำร้องแม้กฎหมายมิได้บัญญัติ ให้เป็นที่สุดก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิย้อนมาเลือกใช้วิธี อุทธรณ์คำสั่งตามมาตรา 156 วรรค 5 อีก
ย่อยาว
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยอ้างว่ากองมรดกของนายสุจิตร ปัตตะโชติ ผู้ตาย ไม่มีทรัพย์สินที่จะนำมาเสียค่าธรรมเนียมศาลได้เนื่องจากถูกกรมสรรพากร จำเลยที่ 1 มีคำสั่งยึดและอายัดไว้ทั้งหมด และคดีของโจทก์มีมูลที่จะฟ้องและมีทางชนะคดีได้ ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์ยื่นฟ้อง คดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว เห็นว่ายังมีทรัพย์สินมรดกของผู้ตายอีกหลายรายการที่กรมสรรพากร จำเลยที่ 1 ไม่ได้ยึดและอายัด จึงมิใช่กรณียากจนไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ให้ยกคำร้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องโจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ในกรณีที่มีการยื่นคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา หากศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอโจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรค 4 หรือจะเลือกใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้นตามมาตรา 156 วรรค 5เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง คดีนี้ โจทก์เลือกใช้สิทธิตามมาตรา 156วรรค 4 แล้ว เมื่อศาลภาษีอากรกลางสั่งยกคำร้องขอนั้น แม้กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าคำสั่งเช่นว่านั้นให้เป็นที่สุดก็ตาม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิย้อนมาเลือกใช้วิธีอุทธรณ์คำสั่งตามมาตรา 156 วรรค 5 อีก ที่ศาลภาษีอากรกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นชอบแล้ว จึงให้ยกคำร้อง”