คำสั่งคำร้องที่ 900/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2 มิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อ หรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงมาในฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 ส่วนฎีกาข้อ 3 เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องการใช้กฎหมายอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3ซึ่งจำเลยได้บรรยายข้อเท็จจริงโดยย่อในคำฟ้องฎีกาแล้วฎีกาของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225 และถือได้ว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไวั พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมได้สำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 35 สำนวนธุรการอันดับ 35 และ 36)
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นางประภาสมสุขทวีกุลผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็น ประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ เห็นสมควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 4 เดือน และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ช.1825/2532 ของศาลนี้ ส่วนคดีอาญาหมายเลขดำที่ ช.4700/2532 ที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้น ไม่ปรากฎว่าศาล ได้พิพากษาแล้วหรือไม่ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้ให้ยกคำขอในส่วนนี้
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 34 แผ่นที่ 2)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 35)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยอุทธรณ์คำสั่งเฉพาะฎีกาข้อ 2 เห็นว่าฎีกาข้อ 2 ของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย จำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อและขอกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงไว้ชัดแจ้งชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225 แล้ว ให้รับฎีกาข้อ 2 ของจำเลยไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share