แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและคดีนี้ราคาทรัพย์สินที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาข้อ 2.1 ที่ว่าจำเลยครอบครองทรัพย์พิพาทแทนโจทก์ แม้โจทก์จะฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย ฟ้องโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและโจทก์ได้หยิบยกขึ้น ว่ากล่าวมาตั้งแต่แรก ส่วนฎีกาข้อ 2.2 ที่ว่าทรัพย์พิพาทเป็นมรดกของ นางสาครนนกระโทก จะต้องตกได้แก่โจทก์และจำเลยซึ่งเป็นทายาทโจทก์ได้หยิบยกขึ้นว่ากล่าวมาตั้งแต่แรกจนถึงชั้นฎีกาแต่ศาลอุทธรณ์ มิได้วินิจฉัยให้ สมควรที่จะนำขึ้นสู่ศาลสูงวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 70 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เล่ม 4 หน้า 152 สารบบเล่มหมู่ 8 หน้าเลขที่ 431 ตำบลเมืองไผ่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 197ตำบลเมืองไผ่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ และบ้านเลขที่ 1ตำบลเมืองไผ่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นทรัพย์มรดกของนางสาคร ให้แบ่งทรัพย์ดังกล่าวให้โจทก์และจำเลยได้ส่วนเท่ากัน หากไม่สามารถแบ่งได้ให้นำทรัพย์ดังกล่าวออกขายทอดตลอดเอาเงินมาแบ่งให้ได้คนละเท่ากันคำขอของโจทก์เกี่ยวกับยุ้งข้าวให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์เกี่ยวกับที่ดินพิพาททั้ง 2 แปลง และบ้านพิพาทด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 65)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 66)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ตามฎีกาโจทก์ข้อ 2.1 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์และโจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปีคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฉะนั้นที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกแทนโจทก์ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาล จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาโจทก์ข้อ 2.2 นั้น เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงได้ว่า คดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว ก็ไม่จำต้อง วินิจฉัยปัญหาอื่นอีกต่อไปได้ คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน สองแสนบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่งที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ