แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์ในคดีนี้ได้โอนสิทธิเรียกร้องทั้งหมดที่มีต่อจำเลยให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ตามพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์พ.ศ. 2541 มาตรา 7 ผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีความประสงค์ขอเข้าสวมสิทธิในการดำเนินคดีแทนโจทก์ โปรดมีคำสั่งให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิเป็นโจทก์แทนโจทก์เดิมด้วย
หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว ไม่ค้าน (อันดับ 75-77)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 300,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 60)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 69)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลโดยจดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 และรับโอนสิทธิเรียกร้องทั้งหมดในคดีนี้จากโจทก์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2544 ผู้ร้องย่อมเข้าสวมสิทธิเป็นคู่ความแทนโจทก์ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าว อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิแทนโจทก์ได้ตามคำร้อง