แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 14 อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า รับอุทธรณ์ของจำเลยเฉพาะประเด็นข้อที่ว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ ส่วนอุทธรณ์ข้ออื่นของโจทก์ (น่าจะเป็นจำเลย) เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์
จำเลยทั้งสิบสี่เห็นว่า อุทธรณ์ในประเด็นข้อ 2 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ในชั้นพิจารณา โจทก์มีอำนาจนำสืบข้อเท็จจริงที่มิได้นำสืบในชั้นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 หรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ในประเด็นข้อ 2 ด้วย
หมายเหตุ ศาลแรงงานกลางได้ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแล้ว (อันดับ 35)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ที่ 17-18/2530 ฉบับลงวันที่ 3 เมษายน 2530
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 14 อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 31)
จำเลยทั้งสิบสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 33)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ว่านายจ้างผู้เป็นโจทก์มิได้นำพยานเข้าสืบต่อสู้ตามคำกล่าวของลูกจ้างผู้กล่าวหาต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ เมื่อโจทก์ฟ้องคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นจำเลยขอให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ที่ให้รับลูกจ้างผู้กล่าวหากลับเข้าทำงาน ให้จ่ายค่าเสียหายให้ย้ายลูกจ้างไปทำงานในหน้าที่เดิมในชั้นพิจารณาโจทก์จะนำสืบข้อเท็จจริงที่มิได้นำสืบต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้หรือไม่ คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อเท็จจริงของโจทก์ในชั้นพิจารณาหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายให้รับอุทธรณ์ส่วนนี้ไว้พิจารณา ให้ศาลแรงงานกลางดำเนินการว่าด้วยการอุทธรณ์แล้วส่งสำนวนไปศาลฎีกาโดยเร็ว