แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ทุกข้อเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 ในข้อ ข เป็นปัญหา ข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่เป็นความผิด โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 106)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานใช้ เอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 จำคุก 1 ปี ฯลฯ
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 105)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 106)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี โดยฟังว่าจำเลยที่ 2 ใช้เอกสารราชการปลอม ฉะนั้น ฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า มีบุคคลอื่น มายืมรถสามล้อเครื่องไปใช้บ้างให้เช่าบ้าง การที่เจ้าพนักงาน ตำรวจยึดรถสามล้อเครื่องได้จากจำเลยที่ 1 ในระหว่างที่ จำเลยที่ 1 นำรถคันดังกล่าวออกไปวิ่งรับส่งคนโดยสาร โดยมี จำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนรู้เห็นด้วย จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมกับ บุคคลอื่นนำรถของจำเลยที่ 2 ไปใช้ในการกระทำความผิด (โดย ใช้แผ่นป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมปลอม) นั้น เป็นฎีกาโต้เถียง ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกร้อง