แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 ฎีกาคดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 187)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 1 จากเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 6561 อันได้มาโดยการครอบครองแล้วให้เพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 และนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 แล้วถอนชื่อจำเลยที่ 2ถึงที่ 7 ออกไปจากโฉนดดังกล่าวด้วย หากจำเลยไม่ไปจัดการให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาแทน แล้วให้ส่งโฉนดแก่โจทก์ ให้จำเลยร่วมกันและแทนกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะส่งคืนโฉนดเลขที่ 6561 แก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 182,181)
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ สำหรับเรื่องค่าเสียหายจำเลยได้นำเงินสดมาวางเป็นประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 169,168)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในเรื่องการเพิกถอนนิติกรรมโดยห้ามทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างฎีกา ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบ ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ถ้าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และที่ 7 คนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จนถึงวันฟังคำสั่งนี้และต่อไปอีก 2 ปี มาวางศาลจนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้องในส่วนเรื่องค่าเสียหาย