คำสั่งคำร้องที่ 753/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การพิจารณารับหรือไม่รับฎีกาจะต้องบังคับตามกฎหมายในขณะที่มีการยื่นฎีกา
จำเลยทั้งสองฎีกาให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสองว่าเอกสารหมาย จ.1 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลบังคับเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 136,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 78,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (25 กันยายน 2533)เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระให้จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันชำระแทน คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก

จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยทั้งสองฎีกาโต้แย้งคัดค้านการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา

จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาว่า ฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่าสัญญากู้ยืมเอกสารหมาย จ.1 ของโจทก์เป็นเอกสารที่โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนเงินจากที่จำเลยทั้งสองตกลงกู้ และคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดรวมเข้ากับเงินต้นจริง ๆ สัญญากู้ยืมตามเอกสารหมาย จ.1 มีลักษณะเป็นเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีผลบังคับให้จำเลยทั้งสองต้องรับผิด ซึ่งเป็นการตีความลักษณะของเอกสารว่าเป็นเอกสารที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่แม้จำเลยทั้งสองมิได้เขียนประโยคว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องลงไว้ในฎีกาก็ตาม แต่ข้อความโดยรวมทั้งหมดแล้วเท่ากับว่าจำเลยทั้งสองฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องโดยอาศัยสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 ดังนั้นจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย และคดีนี้ได้มีการฟ้องก่อนที่จะบังคับใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ ในกรณีนี้คดีของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การพิจารณารับหรือไม่รับฎีกาจะต้องบังคับตามกฎหมายในขณะที่มีการยื่นฎีกา คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2ฟังข้อเท็จจริงว่าเอกสารหมาย จ.1 ใช้บังคับได้ ที่จำเลยทั้งสองฎีกาให้ศาลรับฟังตามพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสองว่า เอกสารหมาย จ.1ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีผลบังคับ จึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง คืนค่าคำร้องที่ชำระเกินมา 160 บาท ให้แก่จำเลยทั้งสองด้วย”

Share