แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการ นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างในกรมโยธาธิการ และเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมโยธาธิการแล้ว ยังเป็นผู้แทนของกรมโยธาธิการในการปฏิบัติราชการด้วย การปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมโยธาธิการจึงเป็นการปฏิบัติราชการแทนกรมโยธาธิการ ดังนั้นเมื่ออธิบดีกรมโยธาธิการปฏิบัติงานไปอย่างไรแล้ว หากมิใช่กระทำกิจในเรื่องส่วนตัว กรมโยธาธิการซึ่งเป็นหน่วยงานต้องรับผิดชอบเมื่อโจทก์มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมโยธาธิการ โจทก์ย่อมฟ้องอธิบดีกรมโยธาธิการหรือฟ้องกรมโยธาธิการเป็นจำเลยได้ทั้งสองประการ การที่ศาลพิพากษาให้เจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ชำระค่าทดแทนเพิ่มขึ้น และให้ชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนใช้บังคับย่อมเป็นการชอบด้วยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ข้อ 67 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลงคือที่ดินโฉนดที่ 3195 และที่ดินโฉนดที่ 27308 จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทกรมในรัฐบาล สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดำเนินการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงให้รับกับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะสร้างขึ้นใหม่บริเวณใกล้เคียงกับสะพานพระรามหกโดยมีอธิบดีกรมโยธาธิการเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตดุสิต เขตบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2527 เจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ทำการสำรวจแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่าที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืน จำเลยได้กำหนดค่าทดแทนที่ดินส่วนที่ถูกเวนคืนให้โจทก์รวมเป็นเงิน 4,695,200 บาท ที่พิพาททั้งสองแปลงถูกเวนคืนมีเนื้อที่รวม 483.30 ตารางวา ราคาตารางวาละ 40,000 บาท เป็นเงิน19,332,000 บาท จำเลยจ่ายค่าทดแทนให้โจทก์แล้ว 4,695,200 บาทคงเหลือค่าทดแทนที่จำเลยต้องจ่ายเพิ่มอีก 14,636,800 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 21,223,360 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ10 ต่อปีในต้นเงิน 14,636,800 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า การกำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ถูกต้องและเป็นธรรมแล้ว โจทก์ได้รับเงินไปแล้ว 4,695,200 บาท จึงเหลือเงินที่โจทก์จะได้รับเพิ่มอีก 15,400 บาท เท่านั้น การที่โจทก์คิดราคาค่าทดแทนที่ดินทั้งสองแปลงในอัตราตารางวาละ 40,000 บาท ไม่ชอบด้วยเหตุผล ถือไม่ได้ว่าเป็นราคาธรรมดาที่ซื้อขายในท้องตลาดทั่วไปและโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยนับแต่วันพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตดุสิต เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2527ใช้บังคับ เพราะขณะนั้นยังไม่มีการโต้แย้งสิทธิอันจะก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะได้รับเงินค่าทดแทน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่าทดแทนอีก 4,004,200 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อแรกว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย เพราะพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตดุสิตเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2527 มาตรา 4 กำหนดให้อธิบดีกรมโยธาธิการเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ อธิบดีกรมโยธาธิการกับกรมโยธาธิการจำเลยคดีนี้จึงเป็นบุคคลต่างหากจากกันนั้น เห็นว่า ตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการ นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและลูกจ้างในกรมโยธาธิการและเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมโยธาธิการแล้ว ยังเป็นผู้แทนของกรมโยธาธิการในการปฏิบัติราชการด้วย การปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมโยธาธิการจึงเป็นการปฏิบัติราชการแทนกรมโยธาธิการ ดังนั้น เมื่ออธิบดีกรมโยธาธิการปฏิบัติงานไปอย่างไรแล้ว หากมิใช่กระทำกิจในเรื่องส่วนตัว กรมโยธาธิการซึ่งเป็นหน่วยงานต้องรับผิดชอบ เมื่อโจทก์มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมโยธาธิการ โจทก์ย่อมฟ้องอธิบดีกรมโยธาธิการหรือฟ้องกรมโยธาธิการเป็นจำเลยได้ทั้งสองประการ
จำเลยฎีกาข้อสุดท้ายว่า โจทก์ได้ยอมรับเงินค่าทดแทนที่ดินจากจำเลยแล้ว ถือว่าความรับผิดชอบอันเกิดจากการไม่ชำระหนี้เป็นอันปลดเปลื้องไป จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยให้โจทก์อีกหากโจทก์จะได้ดอกเบี้ยก็ชอบที่จะคำนวณจากวันฟ้องเป็นต้นไป ข้อนี้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ข้อ 67 บัญญัติว่า ฯลฯ ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้เจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ชำระเงินเพิ่มขึ้นให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินนั้นตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนใช้บังคับ ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนเพิ่มขึ้นและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2527 อันเป็นวันที่พระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวใช้บังคับ จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พิพากษายืน