คำสั่งคำร้องที่ 75/2546

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่รับจดทะเบียนของจำเลย และให้จำเลยรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ศาลฎีกาพิพากษาตามคำขอของโจทก์ ต่อมาโจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งศาลแรงงานกลางเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนของจำเลยว่าจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ขณะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ห้าม ป. กับพวก ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นประธานและกรรมการสภาฯ กระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งกิจการของสภาฯ และห้ามมิให้นายทะเบียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับจดทะเบียนไว้ชั่วคราว กรณีจึงเป็นการนอกเหนือคำฟ้องกับเป็นเรื่องที่ขอให้ห้ามบุคคลอื่นซึ่งมิใช่จำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 254(2) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 31 ต้องยกคำร้อง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งด่วนมากของจำเลยที่ รส 0607/02996 เรื่อง การขอจดทะเบียนกรรมการสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 29 เมษายน 2541 และให้จำเลยรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1/2540 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2540

โจทก์ยื่นคำร้องว่า การที่จำเลยรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทยโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน2540 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2542 นั้น ไม่ถูกต้อง ที่ถูกนั้นต้องให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25ธันวาคม 2544 ซึ่งเป็นวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม2546 โปรดมีคำสั่งให้เรียกจำเลยมาสอบถาม

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้นัดพร้อม จำเลยแถลงว่า จำเลยได้จดทะเบียนให้การเป็นกรรมการมีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2542เป็นการถูกต้องตามคำพิพากษาศาลฎีกาโดยชอบแล้ว ศาลแรงงานกลาง เห็นว่าจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาโดยถูกต้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

โจทก์ยื่นคำร้องยืนยันว่า วันที่จำเลยจดทะเบียนตามคำพิพากษาศาลฎีกาควรเป็นวันที่ศาลแรงงานกลางอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาหรือวันที่คำบังคับมีผล คำสั่งศาลแรงงานกลางดังกล่าวมีข้อผิดพลาด ขอให้แก้ไขข้อผิดพลาด ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ไม่มีกรณีผิดพลาดหรือผิดหลงอันจะต้องแก้ไข ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาว่า เนื่องจากนายประเทือง แสงสังข์ กับพวกอ้างว่าเป็นประธานและกรรมการสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทยกระทำการให้เกิดความเสียหายแก่สภาดังกล่าว โดยจัดให้มีการประชุมสมาชิก ทั้งที่รู้ว่าตนไม่มีสิทธิและอำนาจที่กระทำได้ โจทก์จึงขอให้ศาลได้โปรดไต่สวนและมีคำสั่งให้ใช้วิธีการชั่วคราวโดยให้นายประเทือง แสงสังข์ กับพวก หยุดกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งกิจการของสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย และไม่ให้นายทะเบียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน รับจดทะเบียนเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่รับจดทะเบียนของจำเลย และให้จำเลยรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทยซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ศาลฎีกาพิพากษาตามคำขอของโจทก์ ต่อมาโจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลแรงงานกลางเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนของจำเลยว่า จะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ฉะนั้นคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยห้ามมิให้นายประเทืองแสงสังข์ กับพวก ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นประธานและกรรมการสภาฯ กระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งกิจการของสภาฯ และมิให้นายทะเบียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับจดทะเบียนไว้ชั่วคราว เป็นกรณีนอกเหนือคำฟ้อง กับทั้งขอให้ห้ามบุคคลอื่นซึ่งมิใช่จำเลย จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31ให้ยกคำร้อง”

Share