แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์เป็นข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจโทมีอำนาจและอิทธิพลต่อจำเลยที่ 1 และพยานของจำเลยที่ 1 ที่จะมาเบิกความต่อศาล หลังจากโจทก์ฟ้องคดีนี้แล้ว จำเลยที่ 1 ได้ถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์ตลอดมาว่า “กลัวตายไหม””ไม่กลัวตายหรือ” และสามีของจำเลยที่ 1 ก็ได้รับจดหมายมีข้อความกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1เป็นชู้กับร้อยตำรวจเอกพิพัฒน์เครือไชยพินิจ ซึ่งจะมาเป็นพยานของจำเลยที่ 1 ปรากฏตามภาพถ่ายเอกสารท้ายคำร้องนี้ นอกจากคดีนี้แล้วโจทก์ยังได้ฟ้องคดีอาญาจำเลยที่ 1 ในข้อหาหมิ่นประมาทที่ศาลแขวงราชบุรีอีกคดีหนึ่งด้วย ขอได้โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้โอนคดีนี้ไปพิจารณาที่ศาลอาญาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 82)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328,89,90 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 49ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
คดีอยู่ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 81)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าอาจมีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอื่นขึ้นจึงไม่อนุญาตให้โอนคดี