แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยเห็นว่า การทำงานหลังเวลาทำงานปกตินั้นถือเป็นการปฏิบัติงานประจำต่อเนื่องอันเดียวกับการทำงานในเวลากลางวัน ซึ่งโจทก์จำเลยได้ตกลงกันไว้ในเงื่อนไขการจ้างและสัญญาจ้างแรงงานก่อนจะร่วมงานกัน ซึ่งข้อเท็จจริงในรายละเอียดการปฏิบัติงานนั้นจะแตกต่างกับการปฏิบัติงานในเวลาทำงานปกติ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการทำงานล่วงเวลาตามกฎหมาย การที่ศาลแรงงานกลางเห็นว่าการทำงานดังกล่าวเป็นการทำงานล่วงเวลา จึงมิชอบโดยกฎหมายและขัดกับเงื่อนไขข้อตกลงเกี่ยวกับการจ้างดังกล่าว โปรดรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 25)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าล่วงเวลาและค่าลวงเวลาในวันหยุดที่ยังค้างชำระเป็นจำนวนเงิน 31,503.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (1 พฤษภาคม 2544) เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ตามขอ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 21)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 24)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าลักษณะงานที่โจทก์ทำในเวลาทำงานปกติกับงานที่ทำในเวลาเข้าเวรเป็นงานอย่างเดียวกัน ไม่แตกต่างกัน คือต้องออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุเมื่อได้รับแจ้งการที่จำเลยให้โจทก์เข้าเวรหลังเวลาทำงานปกติ ถือได้ว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา จำเลยอุทธรณ์ว่า แม้งานที่โจทก์ทำในเวลาทำงานปกติกับงานที่ทำในเวลาเข้าเวรจะเป็นงานประเภทเดียวกันคือรับแจ้งเหตุและออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุ แต่รายละเอียดและความยากลำบากแตกต่างกันคือ การปฏิบัติงานของโจทก์ในเวลาทำงานปกตินอกจากจะรอรับแจ้งเหตุและออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุแล้วช่วงเวลาใดที่โจทก์ไม่ได้ออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุ โจทก์จะต้องทำการตรวจเช็คเอกสารจัดทำเอกสารและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถพักผ่อนหลับนอนได้แต่การปฏิบัติงานหลังเวลาทำงานปกติ ถ้าโจทก์ไม่ได้ออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุ โจทก์สามารถพักผ่อนหลับนอนอยู่ในสำนักงานได้ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอย่างเคร่งครัดเหมือนกับการทำงานในเวลาปกติ การทำงานของโจทก์ในเวลาทำงานปกติกับการทำงานในเวลาเข้าเวรจึงแตกต่างกัน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา เห็นได้ว่าจำเลยโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาดังกล่าวข้างต้นเพื่อให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่เพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ว่าโจทก์ทำงานล่วงเวลาหรือไม่ อันเป็นการอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54วรรคหนึ่ง ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง