แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกา จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาที่ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยคดีนี้โดยรับฟังพยานหลักฐานที่ขัดต่อกฎหมายและ ที่ดินพิพาทในคดีนี้มีลักษณะเป็นที่งอกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 133) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน เลขที่ 6 ที่ดินอยู่หมู่ที่ 13 ตำบลแสนสุขอำเภอเมืองชลบุรีจังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 1 งาน 50 ตารางวา เป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยทั้งสองเข้าเกี่ยวข้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 129) จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 130)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้ออ้างเป็นข้อกฎหมายของ จำเลยที่ 1 ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อวินิจฉัยข้อกฎหมายการเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อ สู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยที่ 1 จึงมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1 นั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง