คำสั่งคำร้องที่ 613/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์มีจำนวนทุนทรัพย์พิพาทชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท จึงห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง และปรากฏว่าฎีกาของโจทก์เป็นการฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาล ชั้นฎีกาให้โจทก์ โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในเรื่องความเสียหายที่เกิดจากสัญญาเช่าซื้อว่าจำเลยควรจะต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อ ต่อโจทก์เพียงใด ซึ่งศาลไม่จำต้องวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงอีก เพราะข้อเท็จจริงฟังได้เป็นข้อยุติแล้วว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญา ต่อโจทก์จริง จึงไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนปัญหาว่าจำเลย ควรจะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาเพียงใดอันเป็นเรื่องจะต้อง แปลความตามข้อตกลงของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายว่าจะต้องรับผิด เพียงใด ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ประกอบกับฎีกาของโจทก์ เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 45 แผ่นที่ 3,46 แผ่นที่ 4) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 47,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (10 มีนาคม 2536)เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 42) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 43)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองในเรื่องการกำหนดค่าเสียหายเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share