แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า แม้ว่าจำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันในชั้นอุทธรณ์ ทั้งมิใช่ข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการฎีกา จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ เป็นฟ้องที่ไม่ครบองค์ประกอบความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้ เมื่อการกระทำของจำเลยไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามฟ้อง ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่โจทก์ปราศจากอำนาจที่จะฟ้องตามกฎหมาย ฎีกาของจำเลยจึงชี้ชัดให้เห็นว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นความผิดสำเร็จ เพราะการกระทำของจำเลยเป็นเพียงขั้นพยายามเท่านั้นและปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ฎีกาได้หรือแม้ว่าจำเลยจะมิได้ต่อสู้ไว้ ศาลก็มีอำนาจที่จะยกขึ้นมาวินิจฉัยได้เอง โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4,5,6,10,12,15 ฯลฯ จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว จำคุก 3 เดือน ริบของกลางพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า จากของกลางที่ปรากฏฟังว่าจำเลยเป็นเจ้ามือรายใหญ่ รับกินรับใช้เป็นเงินจำนวนมากไม่สมควรรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 4 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 25)
ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาจำเลยที่ว่าการกระทำของจำเลยตามฟ้องเป็นเพียงพยายามกระทำความผิด ไม่ครบองค์ประกอบความผิดสำเร็จนั้นเป็นข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225และไม่มีเหตุสมควรจะวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง