คำสั่งคำร้องที่ 534/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ฎีกาของจำเลยน่าจะได้รับการวินิจฉัย เป็นคุณแก่จำเลยได้ถ้าให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แล้ว และต่อมาหากศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลย เป็นฝ่ายชนะคดีจะทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย โปรดอนุญาต ให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 57) ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน170,400 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าเสียหายเดือนละ 21,300 บาท นับถัดจากวันฟ้องถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2535 แก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยกเสีย จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 53,52)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว แม้จำเลยจะอ้างว่าได้นำเงินจำนวน447,300 บาท ซึ่งเป็นค่าเช่าเดือนละ 21,300 บาท นับแต่เดือนเมษายน 2534 จนถึงเดือนธันวาคม 2535 ไปวางไว้ที่ สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี และไม่เป็นการยากที่โจทก์จะบังคับคดีเอากับทรัพย์สินอันเป็นเงินจำนวนดังกล่าว แต่เงินจำนวนที่จำเลยนำไปวางทรัพย์ไว้นั้น ยังไม่อาจทราบได้ว่า โจทก์กับบริษัทมาบุญครองอบพืชและไซโล จำกัด ใครเป็นผู้มีสิทธิในค่าเช่าที่แท้จริง จึงยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าเงินจำนวนดังกล่าว จะนำมาเป็นหลักประกันในการชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ได้หรือไม่ ดังนั้น ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับ จำนวนค่าเสียหาย 170,400 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง

Share