คำสั่งคำร้องที่ 515/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์ไม่รับรองให้ฎีกาจึงไม่รับฎีกาของโจทก์ โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ที่ว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 ประกอบกับมาตรา 217 แม้ในปัญหาข้อเท็จจริงผู้พิพากษาองค์คณะศาลอุทธรณ์จะไม่รับรอง ฎีกาให้ แต่ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 ของโจทก์นั้นสามารถฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสามได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 148) ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 135 แผ่นที่ 3) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 148)

คำสั่ง ปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่า ฟ้องคดีนี้ซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 7039/2535 ของศาลชั้นต้นเดียวกันนี้หรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย อุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ส่วนนี้ฟังขึ้น แต่สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 นั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีสำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องห้าม มิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงให้รับฎีกาโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 1 ในปัญหาข้อกฎหมาย ดังกล่าวข้างต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share