แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ปัญหาที่ว่า พยานโจทก์เบิกความแตกต่างขัดแย้งกันเป็นข้อสาระสำคัญแห่งคดีอันเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้หรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เพิ่งเกิดขึ้นจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 88)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15,67 จำคุก 5 ปี ฯลฯจำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 87)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 88)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ว่าปัญหาเรื่องพยานโจทก์เบิกความแตกต่างขัดแย้งกันอันควรถือเป็นข้อสาระสำคัญแห่งคดีหรือไม่เพียงใด ย่อมถือเป็นข้อกฎหมายนั้นเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเป็นการโต้แย้งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงโดยตรงมิใช่เป็นปัญหาข้อกฎหมายดังที่จำเลยเข้าใจ ดังนั้นเมื่อปรากฏว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนและลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปีคดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง