แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีนี้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า ฎีกาของจำเลยไม่ใช่ข้อสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาจึงไม่อนุญาตให้ฎีกา และสั่งฎีกาว่า ศาลไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกาข้อเท็จจริง ไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกาจึงขอศาลฎีกาได้โปรดพิจารณาให้จำเลยได้ยื่นฎีกาอันเป็นการ ให้โอกาสแก่จำเลยอีกครั้งหนึ่ง โปรดอนุญาต หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง หรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291,300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายซึ่งเป็น บทหนัก ให้จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 32) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 34)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ดุลพินิจในการอนุญาตให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เป็นดุลพินิจ เด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ที่เห็นว่า ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญ อันควรสู่ศาลสูงสุดหรือไม่ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อความ ที่ตัดสินมิได้เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และไม่อนุญาต ให้ฎีกา เช่นนี้ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจพิเคราะห์ในเรื่องนี้อีก ชั้นหนึ่ง จึงให้ยกคำร้อง