คำสั่งคำร้องที่ 433/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาใน ข้อเท็จจริง แต่ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นจึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของ จำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่เป็นความผิดตามฟ้องและ ศาลชั้นต้นพิพากษาวินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 252 แผ่นที่ 2,253 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 วรรค 2 จำคุก 1 ปี และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 249)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 250)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าการกระทำของจำเลยเป็นการ ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องซึ่งเป็นข้อกฎหมาย และอ้างว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐาน ในสำนวนนั้น เป็นเรื่องที่บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเพื่อให้เป็นข้อกฎหมาย ฎีกาของจำเลยจึงเป็น ฎีกาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสองศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว

Share