แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วม เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสอง จึงไม่รับฎีกาโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษหรือเป็นความผิดตาม มาตรา 289 ดังที่โจทก์ฟ้องโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนารำร้องแล้ว (อันดับ 94 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 20 ปี และมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72 ทวิ วรรคสอง ลงโทษฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 21 ปี 6 เดือน คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 14 ปี 4 เดือน ฯลฯ
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 89)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 91)
คำสั่ง
โจทก์ร่วมฎีกาโต้แย้งดุลพินิจนิจ ของศาลอุทธรณ์ภาค 2ในการฟัง ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
