คำสั่งคำร้องที่ 3813/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงและทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ไม่รับ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า การคำนวณทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกานั้นจะต้องนำดอกเบี้ยที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มารวมคำนวณด้วย เมื่อคดีนี้คำนวณเงินต้นและดอกเบี้ย ตามคำพิพากษาได้เป็นจำนวน 244,942.53 บาท จำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงเกินสองแสนบาท จำเลยจึงมีสิทธิ ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์ 174,153.92 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 92 แผ่นที่ 2)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล (อันดับ 93 แผ่นที่ 2)

คำสั่ง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ของจำเลยที่ 1 ที่ 2

Share