แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่าจำเลยไม่ได้แจ้งต่อศาลในวันหรือก่อนวันสืบพยานว่า ตนตั้งใจจะให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ดังนั้น อุทธรณ์ของจำเลยแม้จะเป็นข้อกฎหมาย แต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดี ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 31 จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า เมื่อโจทก์ขาดนัดพิจารณาศาลแรงงานกลางชอบที่จะจำหน่าย คดีเฉพาะส่วนที่เป็นฟ้องของโจทก์ แล้วพิจารณาตามฟ้องแย้ง ของจำเลยต่อไปเพราะจำเลยมิได้ขาดนัดด้วย คำสั่งของ ศาลแรงงานกลางที่ให้จำหน่ายคดีทั้งหมดจึงไม่ชอบนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญแก่คดี โปรดรับอุทธรณ์ ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 22)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าคอมมิชชั่นค้างจ่าย ค่าเสียหาย และค่าชดเชย แก่โจทก์
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง รวมทั้งขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงินตามข้อตกลงในสัญญาจ้างและค่าเสียหายแก่จำเลย
ศาลแรงงานกลางนัดสืบพยานโจทก์ ถึงวันนัดศาลแรงงานกลางจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า จำเลยมาศาล โจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา จึงถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีทั้งหมดออกจากสารบบความ (อันดับ 17)จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 18)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 19)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปัญหาตามที่จำเลยอุทธรณ์มีว่าการสั่งจำหน่ายคดีทั้งหมดออกจากสารบบความของศาลชั้นต้นรวมไปถึงฟ้องแย้งของจำเลยด้วยเพราะเหตุโจทก์ขาดนัดพิจารณานั้นชอบหรือไม่ เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับ อำนาจศาล จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201,225 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 31 ให้รับอุทธรณ์ ของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป
