แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องด้วยจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีสมัครพรรคพวกเป็นตำรวจคอยให้การปกป้องคุ้มครองได้กระทำการอย่างอุกอาจโหดร้ายทารุณ ใช้อาวุธสงครามสังหารคนจำนวนมากกลางตลาดของหมู่บ้านโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและเมื่อเกิดเหตุแล้วจำเลยทั้งสองยังได้ใช้อิทธิพลข่มขู่ผู้รู้เห็นเหตุการณ์จนหวาดกลัวไม่กล้าให้ความจริง ต่อพนักงานสอบสวนเป็นเหตุให้ตำรวจกองปราบปรามต้องเข้าดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอง อีกทั้งจำเลยทั้งสองซึ่งได้รับอนุญาตจากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวก็ได้ออกไปข่มขู่พยานไม่ให้มาเบิกความต่อศาลและก่อนหน้าที่โจทก์ร่วมทั้งสองจะยื่นคำร้องฉบับนี้ ประมาณ 1 เดือน บ้านของนายสำรวย สุบุตรดี โจทก์ร่วมที่ 1 ได้ ถูกคนร้ายขว้างระเบิดใส่บ้านทำให้ได้รับความเสียหาย จน โจทก์ร่วมทั้งสองไม่กล้าอยู่อาศัยในบ้านของตนเอง หากให้พิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีอาจจะมีการขัดขวาง ต่อการพิจารณาและน่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอื่นขึ้นได้โปรดอนุญาตให้โอนคดีนี้ไปพิจารณาที่ศาลอาญาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์และทนายจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 62)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,289,90,91,80,83,371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4,7,8 ทวิ,55,72,72 ทวิ,78
ระหว่างพิจารณา นายสำรวย สุบุตรดีและนายสำอางค์ไพเราะผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
คดีอยู่ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ร่วมทั้งสอง ยื่น คำร้องดังกล่าว (อันดับ 62) ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ และจำเลยทั้งสองแล้ว โจทก์แถลงคัดค้าน ส่วนจำเลยทั้งสอง ไม่คัดค้าน จึงให้ส่งศาลฎีกาพิจารณาสั่ง (อันดับ 64)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณียังไม่พอฟังว่าอาจมีการขัดขวางต่อการพิจารณาหรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบ หรือเหตุร้ายอย่างอื่นขึ้น จึงไม่อนุญาตให้โอนคดี