แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาคำสั่ง มีโอกาสชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 162)
คดีสืบเนื่องจาก ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนคดีถึงที่สุดให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ แต่ก่อนจะมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าว โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินมี โฉนดของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ต่อมาผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยื่นคำแถลง ฉบับลงวันที่ 2 สิงหาคม 2533 ขอถอนการยึดทรัพย์เพราะจำเลยได้นำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา ครบถ้วนแล้ว (อันดับ 70,75,76)
ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 10 ตุลาคม 2533ว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยื่นคำแถลงขอถอนการยึดทรัพย์ ฉบับลงวันที่ 2 สิงหาคม 2533 เพราะสำคัญผิดว่ามีการชำระหนี้ ตามคำพิพากษาแล้ว แต่ความจริงจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ จึงขอถอนข้อความที่ว่า “จำเลยได้นำเงินมาชำระหนี้ ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว” ในคำแถลงดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนคำแถลง (อันดับ 84,133)
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า อนุญาตให้โจทก์ถอนข้อความซึ่งระบุว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ในคำแถลงของโจทก์ฉบับลงวันที่2 สิงหาคม 2533
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 157,156)
ชั้นอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์ภาค 2แปลความว่าจำเลยขอให้คุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาจึงให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 135,146)
คำสั่ง
คำร้องของ จำเลยพอแปลได้ว่า จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้งดการบังคับคดีไว้ในระหว่างฎีกา