แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 2 นัด โดยมีเจตนาฆ่าจำเลยที่ 2 เข้าล็อกคอและจับแขนผู้ตายหลังจากที่จำเลยที่ 1ใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย 1 นัด แล้วผู้ตายสลัดหลุดแล้วล้มลง จึงถูกจำเลยที่ 1 จ่อยิงอีก 1 นัด โดยที่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้ตายและไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายมาก่อน การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1ในการยิงผู้ตายนัดที่ 2 เท่านั้น จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธปืนพกยิงนายกังวาลย์ ลับเหลี่ยม จำนวนหลายนัด โดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้นายกังวาลย์ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 และริบหัวกระสุนปืนของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 18 ปี ริบหัวกระสุนปืนของกลางยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 86 จำคุก 12 ปีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่เกิดเหตุเป็นโรงครัวของวัด ขณะเกิดเหตุมีการจัดงานศพมีแสงสว่างจากไฟฟ้าทั่วบริเวณ เหตุเกิดต่อหน้าคนที่อยู่ในงานจำนวนมากโดยจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 2 นัดโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยที่ 2 เข้าล็อกคอและจับแขนผู้ตายหลังจากที่จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย 1 นัด แล้ว ผู้ตายสลัดหลุดแล้วล้มลง จึงถูกจำเลยที่ 1 จ่อยิงอีก 1 นัด โดยที่จำเลยที่ 2ไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้ตายและไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายมาก่อน การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดคือยิงผู้ตายนัดที่สองเท่านั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาและลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน