แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งสี่ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงทั้งสิ้น กรณีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งแก้ไขใหม่จึงไม่รับฎีกาโจทก์
โจทก์ทั้งสี่เห็นว่า ราคาทรัพย์พิพาทที่โจทก์ตีไว้มีราคา 60,000 บาท นั้น เป็นราคาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531และเป็นราคาที่ประเมินกันเอง แต่ปัจจุบันนี้ราคาทรัพย์พิพาทได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว กล่าวคือปัจจุบันเมื่อนำราคาทรัพย์พิพาททั้งสามแปลงมารวมกันจะมีราคาถึง 486,500 บาทหากศาลฎีการับฎีกาของโจทก์แล้วโจทก์ยินดีจะนำค่าฤชาธรรมเนียม ที่เพิ่มขึ้นมาวางศาล โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์ทั้งสี่และนางน้อย ภรรยาจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1207,1208,3146ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ร่วมกันให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ทั้งสี่และนางน้อย หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 โจทก์ที่ 1ถึงแก่กรรม นางทองใบ เดชเดิม ภรรยาของโจทก์ที่ 1 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งอนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสี่
โจทก์ทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 116)
โจทก์ทั้งสี่จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 117)
คำสั่ง
คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกา เป็นเงิน60,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ