คำสั่งคำร้องที่ 360/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยครอบครองอาวุธปืนฯ อยู่หรือไม่ และครอบครองไว้เพื่อตนหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 6,7,38,55,72,74,78 ฯประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฯ รวม 2 กระทง ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครองจำคุก 2 ปี ฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง จำคุก 4 ปี รวมจำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในหก คงจำคุก 5 ปี ฯลฯ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 84)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด 2 กรรมกระทงแรกฐานมีอาวุธปืนแก๊ปยาวและปืนสั้นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี 8 เดือน กระทงที่สองฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 3 ปี 4 เดือน และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ข้อที่จำเลยฎีกาว่า อาวุธปืนสั้นและวัตถุระเบิดมิได้อยู่ในครอบครองของจำเลยจึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งข้อที่จำเลยฎีกาว่า ในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพโดยไม่ได้สมัครใจ เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา จะนำพยานหลักฐานดังกล่าวมารับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้นั้น ก็เป็นการฎีกาดุลพินิจของศาลในการรับฟังพยานซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกันฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share