แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นฎีกาโดยไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้อง ใช้แทนโจทก์มาวางศาลพร้อมฎีกาเป็นการไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 แม้ต่อมาจำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลภายหลังเมื่อเกินกำหนด อายุฎีกาแล้วเอง ก็จะถือว่าศาลได้ขยายระยะเวลาวางเงิน ค่าธรรมเนียมให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาได้ไม่ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
ย่อยาว
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่นำเงิน ค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกา ค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่าคดีนี้จำเลยมีทางชนะคดีหากได้รับการวินิจฉัย จากศาลฎีกา จำเลยไม่มีรายได้อื่นใด เงินค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความที่จะต้องวางในชั้นฎีกามีจำนวนสูงเกือบ 500,000 บาท จำเลยไม่สามารถหามาได้ทันภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่ ศาลอุทธรณ์พิพากษา โปรดรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 153)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระเงิน 4,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่ วันที่ 6 กรกฎาคม 2536 จนกว่าจะชำระเสร็จ (ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องไม่เกิน 40,223.53 บาท) และชำระเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 135)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 139)
ต่อมาวันที่ 11 ธันวาคม 2539 จำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลเอง
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยยื่นฎีกาโดยไม่ได้นำเงิน ค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลพร้อมฎีกาเป็นการ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยนั้นชอบแล้ว และแม้ ปรากฏว่า ต่อมาจำเลยได้นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาล ภายหลังเมื่อเกินกำหนดอายุฎีกาแล้วเอง ก็จะถือว่าศาลได้ขยาย ระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมให้แก่จำเลยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาได้ไม่ ให้ยก คำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ