แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ ไม่มีสิทธิจะฎีกาได้ ไม่รับฎีกา
ผู้ร้องเห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้โดยผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความ แต่ผู้ร้องได้ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีแพ่งในมูลคดีเดียวกันซึ่งคำพิพากษาคดีนี้มีผลกระทบคดีแพ่งดังกล่าว ผู้ร้องมีส่วนได้เสียในคดีนี้ จึงมีสิทธิฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาคำสั่งของผู้ร้องไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 242)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ประกอบ 83 ลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ฯลฯ
โจทก์ฎีกา (อันดับ 219) คดีอยู่ระหว่างการส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยทั้งสอง โจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่ประสงค์จะฎีกาและขอถอนฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต (อันดับ 221,222)
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องที่โจทก์ว่าไม่ประสงค์จะฎีกา และคำร้องขอถอนฎีกาดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง (อันดับ 231)
ผู้ร้องฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 234)
ผู้ร้องยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 239)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องที่โจทก์ว่าไม่ประสงค์จะฎีกาและ ขอถอนฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้อง ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคแรก การที่ผู้ร้องฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาโดยตรง จึงเป็นการไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของผู้ร้องนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล ให้ยกคำร้อง